Fri, 6 May 2016
คุณประสาน พุทธกุลมสมศิริ คอร์สอังกฤษ 11 มีนาคม 2559 |
Fri, 6 May 2016
"หน้าที่ของพวกเรา คือ เจริญวิปัสสนา และ รู้ทุกข์ ทำให้มาก ทำสิ่งเดียวแล้วส่วนที่เหลือจะตามมา มนุษย์เป็นอันมาก เมื่อถูกภัย ถูกความกลัว ถูกความทุกข์คุกคาม ก็ถือเอาภูเขา เอาต้นไม้ เอาอาราม เอารุกขเจดีย์ เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งบ้าง แต่นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษม ไม่ใช่ที่พึ่งอันปลอดภัย เขาอาศัยที่พึ่งเหล่านั้น ย่อมไม่อาจพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ บุคคลใดมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง เข้าถึงความจริงอันประเสรืฐคือ อริยสัจ 4 คือ รู้แจ้งทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ หนทางปฏิบัติเพื่อให้ถึงความดับทุกข์ นั่นแหละ ถึงจะเป็นที่พึ่งอันเกษม เป็นที่พึ่งอันปลอดภัย เขาอาศัยที่พึ่งนั้นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้" คุณประสาน พุทธกุลสมศิริ "หน้าที่ต่ออริยสัจ" คอร์สภาษาอังกฤษ ครั้งที่ ๓ วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ช่วงที่ ๑ |
Fri, 6 May 2016
psn160310D คุณประสาน (พร้อมแปลอังกฤษ) The Manner in Which We Take Refuge in Buddha, Dhamma, Sangha 10 มี.ค. 59 D
คุณประสาน พุทธกุลสมศิริ ในคอร์สอังกฤษ พร้อมแปลภาษาอังกฤษ 10 มีนาคม 2559 |
Fri, 6 May 2016
psn590310D คุณประสาน - พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งของเราได้อย่างไร - คอร์สอังกฤษ 10 มี.ค. 59 D
"พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ใช่เป็นที่พึ่ง ที่ร้องขอ อยากได้สิ่งโน้น สิ่งนี้ เราไม่ได้สวดเพื่อให้ชีวิตสุขสบาย หรือร่ำรวย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งได้ ก็ต่อเมื่อ พวกเรานำเอาธรรมะ เอาวิธีการปฏิบัติ เรียนรู้การปฏิบัติและนำไปปฏิบ้ติจนเห็นผลด้วยตนเอง พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า... บุคคลใดถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง บุคคลใดถึงอริยะสัจ 4 เข้าใจแจ่มแจ้งซึ่งทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ แจ่มแจ้งในทางพ้นทุกข์ แจ่มแจ้งในความดับทุกข์ แจ่มแจ้งในหนทางปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์ เขาผู้นั้นจึงจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้" คุณประสาน - "พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งของเราได้อย่างไร" คอร์สภาษาอังกฤษ ๓ วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๙ |
Fri, 6 May 2016
psn160310C คุณประสาน (พร้อมแปลอังกฤษ) No One Can Ripen the Mind to Enlightenment, It Ripes when It Does 10 มี.ค.59 C
บรรยายธรรมะโดยคุณประสาน พุทธกุลสมศิริในคอร์สอังกฤษ พร้อมเสียงแปลภาษาอังกฤษ วันที่ 10 มีนาคม 2559 C |
Fri, 6 May 2016
"ทำให้มรรคผลเกิดไม่ได้ มรรคผลเกิดขึ้นเอง เมื่อทุกอย่างสุกงอมสมบูรณ์มรรคผลจะเกิดขึ้น พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า ชาวนามีหน้าที่ 3 อย่าง ไถนา หว่านข้าว เอาน้ำเข้านา น้ำมากก็เอาน้ำออก น้ำน้อยก็เอาน้ำเข้า ชาวนาทำได้แคนี้ ชาวนาจะเรียกร้องให้ข้าวโตเร็วๆ จงออกรวงเร็วๆ ให้ผลผลิตเร็ว ๆ ชาวนาทำไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ข้าวมันจะออกรวงเอง นักภาวนามีหน้าที่ ๓ อย่าง เป็นสิ่งที่ต้องเรียนและทำให้ถึงพร้อม คือ บทเรียนที่ ๑ คือ ศีลสิกขา คือบทเรียน เรื่องศีล บทเรียนที่ ๒ คือ จิตตสิกขา คือบทเรียน เรื่องจิต บทเรียนที่ ๓ คือ ปัญญาสิกขา คือบทเรียนเรื่อง ปัญญา เมื่อนักภาวนาเรียนบทเรียนได้อย่างบริสุทธิ์ บริบูรณ์แล้ว ถึงเวลามรรคผลจะเกิดขึ้นเอง" คุณประสาน พุทธกุลสมศิริ - "ไม่มีใครทำจิตให้บรรลุมรรคผลได้ จิตบรรลุของจิตเอง" คอร์สภาษาอังกฤษครั้งที่ ๓ วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๙ ช่วงที่ ๓ |