Fri, 1 March 2024
|
Wed, 28 February 2024
|
Mon, 26 February 2024
|
Sat, 24 February 2024
|
Thu, 22 February 2024
|
Tue, 20 February 2024
|
Sun, 18 February 2024
[คลิปสั้น] จิตยินดี ยินร้าย เฉยๆ เป็นต้นทางของการปรุงแต่งทั้งหมด - คุณมาลี ปาละวงศ์ 12 มิ.ย. 65 (mle650
|
Fri, 16 February 2024
|
Wed, 14 February 2024
|
Mon, 12 February 2024
|
Sat, 10 February 2024
|
Thu, 8 February 2024
[คลิปสั้น] เป็นปุถุชนที่ดี คำนี้ถือว่ารุนแรงมากสำหรับนักภาวนา - คุณมาลี ปาละวงศ์ 12 มิ.ย. 65 (mle650612s1
|
Tue, 6 February 2024
|
Sun, 4 February 2024
|
Fri, 2 February 2024
|
Wed, 31 January 2024
|
Mon, 29 January 2024
|
Sat, 27 January 2024
|
Thu, 25 January 2024
|
Tue, 23 January 2024
|
Sun, 21 January 2024
[คลิปสั้น] หัวใจของการปฏิบัติคือการเจริญสติในชีวิตประจำวัน - คุณมาลี ปาละวงศ์ 12 มิ.ย. 65 (mle650612s04)
|
Fri, 19 January 2024
|
Wed, 17 January 2024
|
Mon, 15 January 2024
|
Fri, 20 October 2023
"ถ้าเราดูจิต ก่อนรู้ อย่าตั้งใจรู้ รู้แล้ว อย่าถลำ รู้แล้ว จิตนั้น ยินดียินร้าย ให้รู้ตาม ก็คือ ชอบ ไม่ชอบ ให้รู้ตาม ก่อนรู้ อย่าตั้งใจรู้ ถ้าไปดักรู้ พวกนี้ก็คือเพ่ง รู้แล้วอย่าถลำ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 30 กรกฎาคม 2566 |
Thu, 19 October 2023
"มีสติ รู้กายรู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง" สติตรงนี้ หมายถึงสติปัฏฐาน4 ไม่ใช่สติที่พวกเราใช้อยู่กับโลก สิ่งที่แตกต่าง 2 อย่างนี้ คือ สติที่เราใช้อยู่กับโลก เป็นสติที่เรารู้ข้างนอกหมดเลย รู้เรื่องราวข้างนอก รู้สิ่งข้างนอก รู้คนข้างนอก ยกเว้นกายกับใจของเรา แต่ถ้าสติบัฏฐาน 4 เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับตัวของเราทั่งสิ้น ตัวของเรา ประกอบด้วยอะไรล่ะ กายกับใจ เพราะฉะนั้น ที่เรียนของเรา ห้องเรียนของเรา อยู่ที่ไหน ก็อยู่ที่นี่แหละ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 1 เมษายน 2566 |
Wed, 18 October 2023
"ทุกวันนี้เราปฏิเสธมือถือไม่ได้ เพราะทุกอย่างอยู่ในนี้หมด แต่เอาให้พอดี พอดีของใครไม่เท่ากัน ต้องบริหารด้วยตัวเอง อยู่ที่เราเลือกที่จะเสพ เสพอันไหนแล้วเป็นประโยชน์ เสพอันไหนแล้วการภาวนาเราไม่ย่อหย่อน เสพอันไหนแล้วเรามีความสันโดดพอเพียง มักน้อย สันโดด ไม่คลุกคลี ปรารภความเพียร บางคนบอกฉันไม่ได้คลุกคลี แต่ไถมือถือ แสดงความคิดความเห็น โพสได้ตลอด อันนี้ไม่ใช่แล้ว รูปแบบของการคลุกคลีมีการเปลี่ยนแปลงไป ปรารภความเพียร ไม่ได้หมายความว่าต้องเดินจงกรมวันละหนึ่งชั่วโมง นั่งสมาธิวันละหนึ่งชั่วโมง สวดมนต์อีกวันละชั่วโมง ไม่ใช่ความหมายนี้ หัวใจของการปฏิบัติคือปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวัน" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 18 มีนาคม 2566 |
Tue, 17 October 2023
|
Mon, 16 October 2023
|
Mon, 16 October 2023
|
Sun, 15 October 2023
|
Sun, 15 October 2023
|
Fri, 25 August 2023
|
Sat, 15 April 2023
"ภาวนาไปจิตจะค่อยๆ เข้าใจ มันต้องใช้เวลาเรียนรู้ อย่าคิดว่านานเท่าไร ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติก็ได้นะ มันต้องสะสม แต่วันนี้มันเป็นก้าวแรกที่เราเริ่มต้น เมื่อมีก้าวแรก ก้าวที่ร้อยมันก็ถึง แต่เส้นทางนี้ เราไม่รู้ว่าก้าวที่เท่าไร มีแต่ว่าเราทำสะสมไปด้วยความอดทน 'อดทน' เป็นธรรมะที่ดีทั้งทางโลกและทางธรรม" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 19 กุมภาพันธ์ 2566 |
Thu, 13 April 2023
"จุดแรกของการนั่งสมาธิ หรือเดินจงกรมก็ตาม คุณต้องรู้ตัวก่อน รู้ตัวจริงๆ วันนี้ เราจะฝึกรู้ตัวนะ ฝึกรู้ตัวจริงๆ เอ้า! ตัวนี้นั่งอยู่ จะเดิน อยู่หัวจงกรม รู้ก่อนว่า ตอนนี้ยืนอยู่ เอาตั้งแต่จุด Start" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 11 กุมภาพันธ์ 2566 |
Tue, 11 April 2023
"'อย่าลืมความสุข' พวกเราเวลาลงมือปฏิบัติจะลืมคำนี้ไป เราจะจริงจังกันมาก เพราะมีคำว่าต้องดี คำว่าต้องดีมันหลอกเรามากเลย เราไม่ต้องดี แต่ต้องไม่ชั่วเท่านั้นเอง จับหลักที่หลวงพ่อสอน มีสติรู้ตามความเป็นจริง ความเป็นจริงจะเป็นอะไรก็ได้ จะโมโห จะหงุดหงิด แต่ไม่ล้นออกไปเท่านั้นเอง" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 28 มกราคม 2566 |
Mon, 3 April 2023
"รูปแบบนี่จำเป็นและสำคัญ เพราะมันเป็นการฝึกจิต ตรงนั้น ซึ่งเราเรียกว่า จิตตสิกขา ในทุกๆ วันที่เราทำ ไม่ว่าจะครึ่งชั่วโมง หรือ 15 นาทีก็ตาม ที่เราลงมือทำรูปแบบจริงจัง เป็นการเอาจิตมาเรียนรู้ความเป็นจริงของกายกับใจ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ สนทนาธรรม มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 15 มกราคม 66 |
Sun, 26 February 2023
"ทุกๆ วันก่อนที่เราจะเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิ |
Sat, 11 February 2023
"เวลาที่เราลงมือปฏิบัติ เราทำผลไม่ได้ เราทำความตั้งมั่นไม่ได้ แต่เราต้องรู้ว่าเหตุอะไรที่ทำให้จิตตั้งมั่น ก็คือต้องทำสมาธิที่มีความสุขความสบาย สมาธิที่ประกอบด้วยความตั้งมั่นถึงเกิด เราต้องทำเหตุ เหมือนที่เราอยากมีสติ อยากฝึกสติ เราต้องทำให้จิตจำสภาวะได้ โมโห หงุดหงิด ดีใจ เสียใจ เรารู้ไป เรารู้บ่อยๆ จิตถึงจำสภาวะได้ เราต้องทำเหตุ เราต้องสร้างเหตุ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 18 ธันวาคม 2565 |
Thu, 9 February 2023
"วันนี้หลวงพ่อเน้นศีล ศีลก็จะเป็นตัวช่วยเราได้ ค่อนข้างมาก จากนั้นก็ค่อยๆ พัฒนาการดูใจดูกายในแต่ละวัน จนกระทั้งเกิดสติอัตโนมัติ ศีลอัตโนมัติ สมาธิอัตโนมัติ จากนั้นต้องปล่อยให้จิตเค้าทำงานของเค้าไป แต่หน้าที่เราทำตามรูปแบบทุกวัน จนวันหนึ่งเราจะเห็นเลย ว่าความทุกข์มันก็ไม่เที่ยง ความสุขที่เรารู้สึกอินเยอะๆ ก็ไม่เที่ยง มันก็ไปเหมือนกัน สิ่งอะไรที่มันเกิด มันก็ดับ แล้วมันก็ดับด้วยที่เราเห็นด้วยตัวเราเอง วันหนึ่งจิตใจตัวนี้มันเข้าใจ แล้วมันพอ จะรู้ว่ากายนี้ไม่ใช่เรา ใจนี้ไม่ใช่เรา เราบังคับมันไม่ได้ นี้คือเส้นทางที่พระโสดาบันท่านเห็น" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 21 สิงหาคม 2565 |
Tue, 7 February 2023
"นั่งให้สบายก่อน ยังไม่ต้องทำอะไร นั่งสบาย ดูอะไรก็แล้วแต่ ทำความรู้สึกสบาย เสร็จแล้ว หายใจออกไปนิดนึง แล้วก็เห็นร่างกายนี้ หายใจเข้า หายใจออก ถ้าเราทำจนชิน ร่างกาย กับการหายใจ เป็นของที่มันเกิดตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนให้เราเห็นบ่อยๆ ยกเว้นว่าเราไม่ดู แต่ถ้าเมื่อไหร่เราดู เราก็จะเห็นหายใจอยู่ดี นั่นแหละ ตรงนี้ คือจุดพักของเราได้ ก็จะเป็นวิหารธรรมไปโดยอัตโนมัติได้ เมื่อย้อนมาที่ร่างกายแล้ว มันก็จะทำให้จิตมีกำลังมากขึ้น" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 20 พฤศจิกายน 2565 |
Sun, 5 February 2023
"เราอยากพ้นทุกข์ ถ้าเราคิดว่าเราอยากได้ธรรมะเบื้องต้น การเจริญทั้งทางโลก และทางธรรม ทำได้นะ เราเป็นฆราวาส เราทำได้หมด แต่เราต้องเข้าใจก่อน ถ้าคิดว่าเป้าหมายในชีวิตเรา คือการพ้นทุกข์ งานหลักของเรา คือ ภาวนา งานที่อยู่กับโลก ทำแค่พออยู่พอกิน เลี้ยงครอบครัวได้ ตามความรับผิดชอบ เลี้ยงคุณพ่อคุณแม่ได้ อันนั้นคือหน้าที่ แต่งานหลักเรา คือภาวนา ภาวนาเพื่ออะไร เรามีเป้าหมายเพื่อพ้นทุกข์" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 18 กันยายน 2565 |
Tue, 10 January 2023
"การภาวนาคือการสะสม สะสมไปทุกวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่งมันพอ แต่ตอนที่เราสะสม เราก็สะสมไป เราไม่รู้หรอกว่าก้าวไหน ถ้าเรารู้ว่าก้าวที่หนึ่งล้านเราจะถึง อันนี้ไม่ยาก แต่มันยากตรงที่เราไม่รู้ว่าก้าวไหน เราต้องค่อยๆ พากเพียรสะสมไป เราไม่ภาวนาชาตินี้ชาติเดียว เราภาวนากันข้ามอสงไขย ข้ามสังสารวัฏ ตรงนี้อาศัยความอดทน" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 5 พฤศจิกายน 2565 |
Sun, 8 January 2023
"สุดท้ายแล้ว นักภาวนาต้องทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่านั่ง เดิน หรือนอนภาวนา เพราะเราไม่รู้เลยว่าจิตสุดท้ายเราจะไปตอนไหน แต่ถ้าเราไม่แน่ใจ เราก็ทำอย่างเดียวก่อน จนเราแน่ใจแล้วกับสมาธิตัวนี้ คือเรารู้หลักแล้ว จากที่เดินเราจะปรับเป็นนั่ง ที่นั่งแล้วจะปรับเป็นเดิน ก็สามารถทำได้" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 16 ตุลาคม 65 |
Fri, 6 January 2023
"ถ้าเราไม่ได้ทำรูปแบบทุกวัน โอกาสที่จิตจะตั้งมั่นนั้นยาก คือเราต้องสู้กับกิเลสให้ได้ การทำในรูปแบบให้ได้ทุกวันต่อเนื่อง เหมือนเราชนะกิเลสได้ทุกๆวัน เราฝืนกิเลส เราสู้กับกิเลสข้างในของเรา ในวันที่ทำ เราชนะ และเราก็ต้องชนะแบบนี้ทุกวัน ถ้าเราไม่ชนะ เราก็ต้องเป็นทาสมัน ถ้าวันไหนที่เราทำงานมาเหนื่อยมากจริงๆ อย่างน้อยต้องเดินไปกลับให้ได้สามรอบแล้วค่อยขึ้นเตียง ถ้าวันแรกเรายอม วันที่สองก็ตามมา วันต่อๆไปก็สู้มันไม่ได้" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย 3 กันยายน 2565 |
Tue, 6 December 2022
|
Mon, 13 December 2021
"มีอะไร(เกิดขิ้น) ก็รู้อย่างที่มันเป็น รู้เท่าที่รู้ได้ ไม่ต้องรู้เยอะๆ การที่เรารู้เยอะๆ มันรังแต่สร้างปัญหาให้เรา เพราะเรารู้เยอะ เราก็คิดเยอะ พอคิดเยอะ เราก็ฟุ้งซ่าน แล้วเมื่อไรจิตจะสงบ มันก็วนอยู่แบบนี้ ชีวิตทั้งชีวิตปฏิบัติมาสิบปีก็วนอยู่แบบนี้ แทนที่จะรู้ไปตรงๆ พอรู้ตรงๆ เห็นอะไร มันก็ดับไป" --คุณมาลี ปาละวงศ์ 23 พฤษภาคม 2564 |
Thu, 4 June 2020
"สมถะกรรมฐาน จิตไม่ดีทำให้ดี จิตไม่สงบทำให้สงบ จิตไม่มีกำลังต้องเอามาพัก พอเราสงบ เราพักพอแล้ว จิตจะมีกำลังขึ้นมา มีความตั้งมั่น ตรงนี้แหละที่เราเรียกว่า "เตรียมความพร้อมของจิต" เพื่อจะขึ้นวิปัสสานากรรมฐาน มาเรียนรู้กายและใจตามความเป็นจริงอย่างที่เค้าเป็น" --คุณมาลี ปาละวงศ์ ชมรมกัลยาณธรรม ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ |
Thu, 7 May 2020
"สิ่งหนึ่งที่วัดเราได้ สังเกตุได้เลย เราจะรู้เลยว่าช่วงนี้การปฏิบัติเราติดอยู่ตรงไหน ตอนตื่นนอน สมมุติรู้สึกตัวขึ้นมาปุ๊บแว๊บแรก แล้วมันไหลไปคิดหมดเลยให้รู้ว่า ช่วงนี้ให้รู้เลยว่าจิตฉันฟุ้งซ่าน แต่ถ้าแว้บแรกขึ้นมามันนิ่งๆให้รู้ว่าจิตเราติดนิ่งอยู่ เราสังเกตได้เลย ขึ้นมาแล้วว่างๆ จิตเราไปติดว่างอยู่ นี่คือนาทีทองของการที่เรารู้ว่าจิตขณะแรกเราติดอะไรอยู่ แต่ถ้ารู้สึกตัวขึ้นมาเห็นร่างกายชัด ให้รู้เลยว่าช่วงนี้จิตเรามีกำลังที่จะดู จิตเรามีกำลังที่ดูได้อยู่" --คุณมาลี ปาละวงศ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๖ มกราคม ๒๕๖๓ |
Sat, 25 April 2020
"สิ่งต่างๆ เวลาที่เราภาวนาไป ทุกครั้งที่เราภาวนาแล้วมันไม่ใช่หรือมันผิด อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องเดินผ่าน ถ้าทำอย่างนี้มันก็ผิด ทำอย่างนี้มันก็ผิด วันหนึ่งมันถึงรู้ว่าที่ผิดมาเพราะอะไร แล้วมันจะถูกเอง อย่าคิดว่า อันนี้ก็ผิดอีกแล้ว อันนี้ก็ผิดอีกแล้ว เพราะข้อเท็จจริงการภาวนา สิ่งที่ถูกทำขึ้นมาไม่ได้ เรามีแต่เรียนรู้เหตุ ทำอย่างนี้เผลอไป ทำอย่างนี้ฟุ้งไป อย่างนี้เพ่งไป มันจะมีอย่างนี้สองสภาวะ สามสภาวะ แต่ทั้งหมดที่เราจะเรียนรู้ เราไม่ได้เอาตัวที่ไม่ฟุ้ง เราไม่ได้เอาสงบ เราต้องเอาไม่เพ่ง ไม่ใช่ สิ่งที่เราจะเรียนรู้ทั้งหมดว่า ไม่ว่าสิ่งใดเกิดสิ่งนั้นก็ดับ นี่คือเส้นทางที่พระโสดาบันเห็น" --คุณมาลี ปาละวงค์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ |
Fri, 6 March 2020
"เวลาที่เดินจงกรมต้องสบาย ถ้าเดินแล้วบังคับ จะไม่มีความสุขในการเดิน มันก็จะไม่มีความยินดีในการภาวนา ให้ดูก่อนว่าเวลาที่เราเดินเหมาะสมไหม เราวางใจอย่างไรในการเดินจงกรม เราจะเอาความรู้สึกตัวหรือเปล่า ถ้าเราจะเดินเอารู้สึกตัวก็ต้องบังคับ พอบังคับก็ไม่มีความสุข ต่อมาดูว่าหัวจงกรมท้ายจงกรม รู้ตัวทั่วพร้อมจริงไหม ถ้ารู้ได้จริงๆ สภาวะความรู้ตื่นและเบิกบานมันมีอยู่แล้ว ถ้าเราทำถูกอย่างไรฉันทะในการภาวนาก็เกิด" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ |
Thu, 5 March 2020
"วิปัสสนาเป็นผลจากสมถะที่ประกอบด้วยสมาธิที่สงบและมีความตั้งมั้น มันถึงจะไปเห็นความเป็นจริงของกายและใจได้ เช่น จิตที่ไหล ไหลไปเอง จิตที่สงบ สงบเอง จิตที่สงบ บังคับไว้ก็ไม่ได้ จิตที่ฟุ้งซ่าน ก็จะบังคับให้ไม่ฟุ้งซ่านก็ไม่ได้ ตรงนี้ถึงขึ้นวิปัสสนา เห็นไตรลักษณ์ของมัน เมื่อไรเราเห็นไตรลักษณ์ของกายของใจได้ ตรงนั้นถึงขึ้นวิปัสสนา แต่สภาวะที่เราทำสมาธิอยู่ อันนี้คือทำสมถะทั้งหมด แม้กระทั่งจิตตั้งมั่นก็เป็นสมถะ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ |
Wed, 4 March 2020
"เวลาดูจิต ก่อนรู้อย่าตั้งใจรู้หรืออย่าตั้งใจดู ถ้าเราตั้งใจดูเราจะไม่เห็นมันทำงาน เปรียบจิตเป็นครูอยู่หลังชั้น เด็กนักเรียนอยู่หน้าชั้น ไม่รู้ว่าครูอยู่ข้างหลัง เด็กจะทำงานทุกอย่างเลย แอบกินขนม เล่นเกม ลอกการบ้านเพื่อน อ่านการ์ตูน เด็กจะทำงานปกติ แต่ถ้าครูมาอยู่หน้าชั้น เด็กนักเรียนจะนิ่ง เรียบร้อยหมดเลย เราจะไม่เห็นการทำงานจริงๆของเขา เพราะฉะนั้นก่อนรู้ อย่าตั้งใจรู้ รู้แล้วอย่าถลำ รู้แล้วจิตนั้นชอบไม่ชอบ หรือเฉยๆ หรือจิตนั้นยินดียินร้าย เราดูตาม" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ |
Mon, 2 March 2020
"ที่เราฝึกทำสัมมาสติก็ดี ทำสัมมาสมาธิก็ดี เพื่อฝึกความพร้อมของจิต ที่จะเผชิญกับปัญหาใดๆ ก็ได้ในโลกใบนี้อย่างมั่นคง ที่จะรู้ว่าสิ่งใดเกิด มันก็ดับ ปัญหามาแล้วมันก็ไปเหมือนทุกๆ เรื่อง" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สเจริญสติในภาคปฏิบัติ เชียงราย ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ |
Sun, 1 March 2020
"โดยธรรมชาติร่างกายเวลาเราหิว เราก็กินอาหาร จิตเวลาหิว มันกินอารมณ์ เราก็มาดูอารมณ์ เดี๋ยวก็อารมณ์เสีย เดี๋ยวก็อารมณ์หงุดหงิด เดี๋ยวก็อารมณ์ดีใจ เดี๋ยวก็อารมณ์เศร้าหมอง วิธีเราดู ก็ดูจิตมันไหล จิตมันเคลื่อนไปทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ ในการดูจิตมี 3 ขั้นตอน ถ้าเราดูได้ละเอียดจริงๆ เราก็จะเห็นจิตที่ไหล จิตที่เคลื่อนไปงับอารมณ์ ไปจับอารมณ์ต่างๆ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฏิบัติ เชียงราย ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ |
Sat, 29 February 2020
"จิตเขาทำงานมากมาย เราคอยสังเกตเขาเนืองๆ ไม่ใช่หมายความว่าต้องจ้อง แค่สังเกตว่าเขาทำอะไรบ้าง เขาเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง สิ่งที่เราเห็นคือการทำงานของเขา วิธีฝึกจิตตั้งมั่นคือ เรารู้จิตเป็นหลัก แต่พอจิตไหลไปไหนไม่รู้ เรากลับมาดูร่างกายก็ได้ เรามีที่ตั้งที่พักของจิต คือเห็นร่างกายหายใจเข้า ร่างกายนี้หายใจออก เราเป็นคนดู เราจะมีความสุข เพราะไม่มีภาระ เรามาดูเขาเฉยๆ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฏิบัติ เชียงราย ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ |
Fri, 28 February 2020
"ตรงที่เราเห็นจิตใจเคลื่อน ขยับ จิตไหลไปแล้วรู้ เคลื่อนไปแล้วรู้ ตรงนี้เรากำลังปฏิบัติธัมมานุปัสสนาสติปัฎฐาน" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฏิบัติ เชียงราย ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ |
Thu, 27 February 2020
"เราเชื่อว่าคำสอนของพระพุทธเจ้ามีจริง เราศรัทธา เราเชื่อว่าเส้นทางที่พระพุทธเจ้าได้ประทานไว้ให้เราเดิน เราเดินแล้ว เราพ้นทุกข์จริง เมื่อเราศรัทธา เราลงมือปฏิบัติ แล้วเราเห็นผลแล้ว ในระดับ1 ไปเรื่อยๆ จนถึง 100 ในวันนึง เมื่อเราเข้าใจในระดับนึง มีความรู้ในระดับนึงแล้ว สิ่งนึงที่เป็นหน้าที่เลยของเราชาวพุทธคือ รู้แล้ว ต้องบอกต่อ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฏิบัติ เชียงราย ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ |
Wed, 26 February 2020
"ในทุกๆ วันที่เรานั่ง มันจะเป็นการเอาจิตไปพักบ้าง ซึ่งเราเรียกว่าสมถะ หรือเราเรียกว่าอารัมณูปนิฌาน แต่วันไหนพักพอแล้วต้องให้จิตขึ้นมาทำงาน ตรงสภาวะตรงนี้เราเรียกว่าลักขนูปณิฌาน มันเป็นสมถะอยู่นะยังไม่ได้ขึ้นวิปัสสนา แต่มันเป็นสมาธิที่ประกอบด้วยความตั้งมั่น เมื่อความตั้งมั่นเกิดขึ้น สมาธิลักษณะแบบนี้เราถึงเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง" --คุณมาลี ปาละวงศ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ |
Thu, 13 February 2020
"นักภาวนาเราต้องรู้ว่าทำอะไร ได้อะไร ต้องมีแนวรับแนวรุกของเรา แต่ละวันเราสู้กับกิเลส เพราะทุกวันกิเลสพร้อมจะให้เราเลิกปฏิบัติ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จต้องเดินจงกรม กิเลสก็มาชวนคิดว่าเหนื่อยจะแย่ ไม่เดินจงกรมดีกว่า กิเลสจะช่วยเราคิด เรามีหน้าที่ฟังมันคิด แล้วเราก็เดินเข้าหัวจงกรม กิเลสรู้แล้วว่าหลอกเราไม่ได้ เราเดินจงกรมอยู่ดีๆ กิเลสก็ช่วยคิดต่อว่าเดินอย่าเยอะนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ทัน ต้องประชุมเช้า มันก็จะมาพูดกับเราตลอดเวลา เราก็ดูตามหน้างาน ขั้นต่ำคือ 15 นาที ตรงนี้ต้องมีวินัย เรามีวินัย เรามีสัจจะกับตัวเอง เราจะมีอธิฐานบารมี จิตใจเราจะเข้มแข็งขึ้น" --คุณมาลี ปาละวงศ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ |
Fri, 24 January 2020
"เวลาที่เรานั่งทำสมาธิหรือเดินจงกรม อย่าเพิ่งรู้กรรมฐานที่เราทำ เช่น เราดูร่างกายหายใจ อย่าเพิ่งเริ่ม ใช้คำว่ารู้ตัวทั่วพร้อมก่อน นั่งให้สบาย รู้ตัวก่อนว่าตัว(ร่างกาย)นี้นั่งอยู่ ทำสบายๆ รู้เล่นๆ เราทำเล่นๆ แต่เราได้ของจริงนะ เพราะเมื่อไหร่เราทำเล่นๆ เรามีความสุข เพราะความสุขเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ เราทำเหตุของสมาธิคือความสุข เมื่อเรานั่งแล้วเรารู้ตัวทั่วพร้อม เราโน้มน้อมถึงความสุข จากนั้นหายใจออกไปนิดหนึ่งก่อน แล้วก็เห็นร่างกายนี้หายใจเข้า ร่างกายนี้หายใจออก เราเป็นคนรู้มีจิตที่ไปดู การทำสมาธิแบบนี้ไม่จำเป็นต้องหลับตา ให้เปิดตา" --คุณมาลี ปาละวงศ์ ค่ายหมอน้องใหม่ใส่ใจธรรมะ ม.แม่ฟ้าหลวง ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Thu, 23 January 2020
"คนในโลกใบนี้แก้ทุกข์ด้วยวิธีต่างๆ โดยไม่ได้กลับมาเรียนรู้ทุกข์(ในกายในใจเรา)เลย เพราะลืมกายลืมใจทั้งวัน ในเมื่อเราลืมกายลืมใจ เราจะแยกรูปแยกนามไม่ได้ เราจะไม่มีโอกาสเรียนรู้ความจริงเลยว่า ตัวเราจริงๆมีหรือเปล่า จนกว่าเราจะเข้ามาดูมัน แต่เราต้องดูด้วยหลักการที่พระพุทธเจ้าสอนเรา คือมีสติจากนั้นทำสมาธิที่ประกอบด้วยความตั้งมั่น" --คุณมาลี ปาละวงศ์ ค่ายหมอน้องใหม่ใส่ใจธรรมะ ม.แม่ฟ้าหลวง ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Wed, 22 January 2020
"สติเกิดเองไม่ได้ บังคับให้เกิดก็ไม่ได้ แต่เรามีหน้าที่ฝึกมัน วิธีฝึกอันดับแรก คือคอยรู้กายรู้ใจบ่อยๆ ศัตรูที่ทำให้เรารู้กายรู้ใจไม่ได้คือเผลอไป เราจะเผลอไปบ่อยๆทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ คือหกช่องทางที่ทำให้เราขาดสติ ทำให้เราลืมรู้ทันความรู้สึกตัวเรา" --คุณมาลี ปาละวงศ์ ค่ายหมอน้องใหม่ใส่ใจธรรมะ ม.แม่ฟ้าหลวง ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Tue, 21 January 2020
"คำว่าสติง่ายไหม แค่เรากลับมารู้กาย กลับมารู้ใจเราได้ นี่คือเครื่องมืออันแรกในพุทธศาสนาที่จำเป็นต้องมี หลวงปู่หลวงตาเราสอนไว้ สติจำเป็นทุกที่สถานในกาลทุกเมื่อ จิตทุกดวงที่เป็นกุศลต้องประกอบสติ ถ้าเมื่อไหร่จิตดวงนั้นไม่มีสติ จิตดวงนั้นเป็นอกุศลแล้ว เช่น เมื่อสักครู่เพื่อนอยู่ข้างหลัง พวกเราเป็นห่วงเค้า ส่งทุกกำลังใจไปดู ใจที่ไหลไปตอนนั้นเราขาดสติเรียบร้อยแล้ว" --คุณมาลี ปาละวงศ์ ค่ายหมอน้องใหม่ใส่ใจธรรมะ ม.แม่ฟ้าหลวง ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Mon, 20 January 2020
"ในสมาธิทั้งหมดมี 3 ตัว คือ ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ และ อัปปนาสมาธิ ในอุปจารสมาธิ กับ อัปปนาสมาธิ เป็นเรื่องของท่านที่ทำสมถะด้วยการทำฌาน ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่เป็นจริตชอบคิด เราใช้ความคิดอยู่กับโลก ใช้ความคิดในการทำมาหากิน โอกาสที่ทำสมาธิ 2 ตัวนี้ต้องเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลย พระพุทธเจ้าไม่ทิ้งพวกเราซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะครั้งพุทธกาลก็ดี หรือ ครั้งปัจจุบันก็ดี ท่านถึงมีขณิกสมาธิ สมาธิตัวนี้แหละที่เราฝึกกัน ไม่ว่าจะไหลไปที่ ตา หู กาย ความคิด ทุกครั้งที่ไหลไป เรารู้สึกตัวขึ้นมาหนึ่งครั้ง จิตตั้งมั่นหนึ่งครั้ง อันนั้นคือสมาธิที่เราเรียกว่า ขณิกสมาธิ คือ สมาธิที่ทีละขณะ ทีละขณะ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Sun, 19 January 2020
"เส้นทางนี้สำหรับคนกล้าและเข้มแข็งที่จะเดินไป ล้มแล้วต้องลุก คลุกฝุ่นก็ต้องคลาน แล้วไม่มีเวลาเหลือให้พวกเราแล้ว ทุกคนใช้เวลาแลกชีวิตของเราสั้นไปทุกวันๆ โลงศพไม่ได้ใส่คนแก่ โลงศพใส่คนตาย ตายเมื่อไรไม่รู้ แต่ถ้าเราเห็นการเกิดดับๆ ตลอดเวลา เราจะเข้าใจธรรมะของพระพุทธองค์ ว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องปกติ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Sat, 18 January 2020
"ในสมาธิ บางครั้งจิตจะไหลไปที่กาย เช่น เราดูร่างกายนี้หายใจเข้า ร่างกายนี้หายใจออก จิตก็จะมาอยู่ตรงนี้ ให้รู้ทัน ส่วนใหญ่เราจะมาติดอยู่ตรงนี้ พอเราไม่รู้ทัน ว่าจิตมันถลำไปที่กายแล้ว ต่อไปสภาวะมันจะเริ่มนิ่ง ถ้าเรารู้ทันปุ๊บ จิตจะไม่นิ่ง เราเห็นเลยว่าจิตมันไหลมาที่กาย เรารู้ทันว่า อ้อ ไหลมาที่กาย สักพักจิตไหลไปคิด เรารู้ว่าไหลไปคิด จิตก็จะขึ้นวิถีการทำงานของเค้า ตามที่เค้าเป็น ในขณะที่นั่งสมาธิ เราไม่ขาดสติเลย เรารู้ทันจิตใจที่มันเปลี่ยนแปลงไป มันเปลี่ยนแปลงไปตรงไหนก็ได้" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Fri, 17 January 2020
"จิตเข้าใจ ไม่ใช่สมองเราเข้าใจ เพราะฉะนั้นถ้าเราเอาสมองเรียบเรียงมันจะไม่เข้าใจหรอก เพราะแทนที่เราจะรู้สภาวะตรงๆ ที่เราเห็น เราก็ไปอยู่ในความคิดที่เราพยายามจะเรียบเรียงว่ายังไงๆ มันพลาดจากสภาวะที่เราเห็นตรงหน้าแล้ว" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Thu, 16 January 2020
"ถ้าเราคอยขยันรู้ ขยันดู เราจะรู้ทันความอยากนั้น เราไม่ได้แก้ เรารู้ตรงๆ คือรู้ถูกต้องตามความเป็นจริง จิตขณะที่เรารู้ตัวนั่นแหละ เรามีสติเรียบร้อยแล้ว" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Wed, 15 January 2020
"ถ้าเรามีสภาวะอะไรที่บ่อยๆ เราดูตัวนั้น มันจะทำให้เราดูจิตง่ายขึ้น ดูสภาวะได้ดีขึ้น ไม่ใช่ว่าเรามีตัวนี้แล้วมันไม่ดี แล้วเราจะต้องแก้ ไม่ใช่นะคะ เรามีอะไรเราดูตามนั้น เพราะเราภาวนาตามทรัพยากรที่เรามี" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Tue, 14 January 2020
"จิตที่เกร็งคือมันเครียด มันมีการบังคับ จิตขณะนั้นมีโทสะ พอจิตมันมีโทะ มันเป็นอกุศล แล้วเราเริ่มนั่งสมาธิตั้งแต่จิตเป็นอกุศล มันเดินต่อไม่ไหว" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Mon, 13 January 2020
"อย่ากลัวผิด เราแค่จะมาดูว่ามันผิดตรงไหน สำคัญคือถ้าเรากลัวผิด แล้วเราไม่ยอมดูตัวผิด เราก็จะไม่รู้ว่าเราผิดตรงไหน คราวนี้มันก็จะผิดเยอะขึ้น เยอะขึ้น คราวนี้มันกลับรถยากเลยล่ะ บางทีต้องล้มกรรมฐานไปเลยด้วยซ้ำไป เพราะมันแก้ไม่ได้" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Sun, 12 January 2020
"ธรรมะจะสดๆ ร้อนๆ ณ ขณะจิตปัจจุบันที่เราเป็น ถ้าเรารู้ลงปัจจุบัน เราจะไม่พลาด สิ่งที่เราพลาด คือเราละเลยปัจจุบันข้างหน้าที่มันเกิดต่อหน้าต่อตาเรา ถ้าเราคอยสังเกตเนืองๆ เราจะอยู่กับปัจจุบันเนืองๆ ได้ แต่ไม่ใช่ต้องอยู่กับปัจจุบัน" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Sat, 11 January 2020
"พอเราเห็นจิตไหว จิตเคลื่อน เราเริ่มรู้สึกได้แล้ว จิตมันเริ่มทำงานได้แล้ว จิตมันเริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น สภาวะแบบนี้สมัยก่อนหลวงพ่อจะใช้คำว่า "จิตตื่น" เมื่อก่อนเวลาใครจะไปอยู่วัด ถ้าจิตไม่ตื่นท่านไม่อนุญาต เพราะเข้าไปก็ไม่รู้เรื่อง ยังรู้สึกตัวไม่เป็น การที่เราเริ่มรู้สึกตัวเป็นได้ แสดงว่าเราเริ่มมีสติ รู้กาย รู้ใจ อย่างที่เค้าเป็น แล้วมันจะค่อยๆเพิ่ม" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Fri, 10 January 2020
"เวลาภาวนาแล้วไม่สบาย ระยะยาวเราจะไม่ยินดีกับการปฏิบัติ เพราะรู้สึกว่าไม่ได้ผล ไม่ได้ผลเพราะเราไม่รู้ว่าเราทำผิด รู้แต่ว่าไม่ได้ผล แล้วก็ดิ้นรนแก้ แต่ถ้าเราเข้าใจหลักภาวนา ว่าให้รู้ตามความเป็นจริง ถ้าเรารู้ลงเป็นปัจจุบันได้ ความไม่สบายนั้นจะดับไป ให้รู้ทีละขณะๆ ไป" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Thu, 9 January 2020
"กรรมฐานถ้าเรารู้หลัก มีสติ รู้กาย ตามความเป็นจริงด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง ใช้อะไรก็ได้ เพราะความเป็นจริงเป็นอะไรก็ได้ ไม่รู้สึกตัวเลย พอเรารู้ว่าไม่รู้สึกตัว อันนั้นรู้เรียบร้อยแล้ว แต่สภาวะที่เราไม่รู้สึกตัวเราไม่ชอบ สภาวะที่เราเผลอไปเราไม่ชอบ สภาวะที่ฟุ้งซ่านเราไม่ชอบ เราจะเอาแต่สงบ เราจะเอาแต่นิ่งๆ เราจะเอาแต่ไม่ฟุ้งซ่าน เราก็ฟังทุกกัณฑ์ หลวงพ่อบอกไม่เอาสงบนะ แต่พอเราลงมือปฎิบัติเราไม่สนใจคำสอนเลย อันนี้เราเป็นกันทุกคน" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Wed, 8 January 2020
"สิ่งที่เรามาเรียนรู้ เราจะมาเรียนรู้ว่า เวลาเราทำกรรมฐานเราไม่ได้เอาตัวจริงๆ เรามาทำ เราแทรกแซง เรามีการจัดการกับกายกับใจเรา ที่ไม่เหมือนกับธรรมชาติที่เราเป็นอยู่ปกติ สิ่งที่เราจะมาเรียนรู้ เรียนรู้ตรงนี้ เพราะฉะนั้นทุกท่านอย่ามัวแต่จะเดินเยอะๆ ให้สังเกตจิตของเราว่าเราเหมือนเดิมไหม ให้สังเกตกายเรา เราเดินเหมือนปกติในชีวิตประจำวันไหม เพราะสิ่งที่เราจะไปเรียนรู้ คือเรียนรู้ความจริง แต่พอเราเข้าหัวจงกรม พอเรานั่งสมาธิ ตัวจริงเราหายไปแล้วเราทำอย่างที่เราคิด" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Tue, 7 January 2020
"นิ่งรู้ว่านิ่ง รู้ทันว่าจิตขณะนี้มันนิ่ง ความนิ่งนี้คือสิ่งที่จิตไปรู้เข้า ความนิ่งไม่ใช่เรา เห็นไหมปิติแล้ว รู้ทันปิติเลย ปิติเกิดเองถูกไหม เดินปัญญาแบบนี้เลย นี่คือการเดินปัญญา แต่เราต้องนำร่องมันนิดนึง จิตมันไม่เคย ต้องช่วยมันนิดนึง ปิติเกิดเอง ปิติไม่ใช่เรา แล้วมันก็ดับเอง เราเห็นไตรลักษณ์เรียบร้อยแล้ว เห็นไหมมันเกิดแล้วมันดับ เราดูแบบนี้เราจะเห็นการเกิดดับ ไม่ใช่อยู่กับมันแล้วค้างอยู่อย่างนี้ มันไม่ใช่ทางที่เราจะไป เราจะเห็นสิ่งใดเกิดสิ่งนั้นดับ กายไม่ใช่เรา จิตนี้ไม่ใช่เรา นี่คือเส้นทางปัญญาขั้นแรก พระโสดาบันท่านเห็นแค่นี้ กิเลสยังไม่ได้ล้าง แต่เห็นความจริงจึงถอดถอนออกมาได้" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Mon, 6 January 2020
"งานหลักของเรา คือ การเจริญปัญญา แต่เราเจริญปัญญาไม่ได้ ถ้าเราไม่มีสมาธิที่ประกอบไปด้วยความตั้งมั่น ซึ่งความตั้งมั่นในขณะนั้นยังเป็นสมถะอยู่ แต่ไม่ใช่มุ่งสู่ความสงบ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Thu, 19 December 2019
"เราฟังมาแล้ว จิตไหลไปรู้ จิตเคลื่อนไปรู้ มันรู้ไปไหน มันไหลไปไหน มันไหลไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เพราะฉะนั้น พวกเรา นักปฏิบัติ คำนี้หลอกหลอนเรา ว่าเราต้องทำอะไรขึ้นมาซักอย่างซึ่งไม่ปกติ ไม่ธรรมดา เรารู้แล้ว ว่าธรรมชาติของจิตมันไหลอย่างนี้ แต่พอเราลงมือนั่งสมาธิทำยังไง ต้องสงบ นึกออกไหม เรารู้ ว่าจิตมันต้องไหลไปทางตา หู จมูก ลิ้นกายใจ ฟังมาตั้งเยอะแล้ว อายตนะหก แต่พอลงมือปฏิบัติทำยังไง ต้องสงบ ต้องไม่ฟุ้งซ่าน" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เชียงราย ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ |
Sat, 14 December 2019
"นักภาวนารู้ลงปัจจุบันแล้วจะไม่พลาด ในชีวิตทุกวันนี้เราวุ่นวายกับสิ่งที่เกิดไปแล้ว แล้วก็กังวลสิ่งที่ยังไม่มา สิ่งที่เราพลาดคือปัจจุบันขณะ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ มสธ. ๒๒ กันยายน ๒๕๖๒ |
Sun, 1 December 2019
"รู้ซื่อๆ รู้ง่ายๆ เส้นนี้ผิดหมดแหละ อย่าตกใจ แต่เราต้องรู้ว่าผิดตรงไหน ทันทีที่เรารู้ว่าผิดตรงไหน เราจะรู้ว่าที่ถูกมันเป็นยังไง เราเรียนรู้สิ่งที่ผิด เราไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกขึ้นมา พอคุณรู้ว่าผิดยังไง มันจะรู้ว่าถูกคืออะไร แต่ทุกวันนี้ เราพยายามจะทำสิ่งที่ถูกขึ้นมา มันผิดตรงที่เราทำนี่แหละ และเราก็อยากได้เร็วๆ แต่ข้อเท็จจริงเราไปทำให้มันช้า เพราะเราทำขึ้นมาทั้งหมด แต่เรารู้แค่ว่าทำ ไม่ได้ห้ามทำ มันไม่มีใครไม่ทำหรอก มันอดทำไม่ได้" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย ๔ สิงหาคม ๒๕๖๒ |
Sat, 30 November 2019
"นักภาวนา อย่าลืม ถ้ารู้ลงปัจจุบันจะไม่พลาด สิ่งที่เราพลาดคือเราไม่รู้ลงปัจจุบัน เราจะไปเอาอดีตที่แก้ไขไม่ได้ จะไปเอาอนาคตที่เราก็คาดหวังไม่ได้จริง สุดท้ายเราได้ทุกข์มา" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย ๔ สิงหาคม ๒๕๖๒ |
Fri, 29 November 2019
"สิ่งที่เราจะพัฒนาตัวเองได้ เราต้องดูตัวเองให้ออก หลวงพ่อจะสอนให้นักภาวนาสามารถที่จะดูได้ด้วยตัวเอง ช่วยตัวเองได้ ที่เราเรียกว่า โยนิโสมนสิการ เพราะถ้าเรายังเที่ยวไปถามใคร ไม่มีใครรู้เท่ากับตัวเราหรอก" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย ๔ สิงหาคม ๒๕๖๒ |
Sat, 9 November 2019
"อย่ากลัวผิด หลวงพ่อสอนบอกว่า ในระหว่างที่เราปฏิบัติไป เราจะเรียนรู้สิ่งที่เราทำผิด พอเราเรียนรู้สิ่งที่เราทำผิด เราถึงจะรู้ว่าถูกเป็นยังไง เพราะสิ่งที่ถูกเราไม่ได้ทำขึ้นมา ถ้าเมื่อไหร่เราทำอันนั้นไม่ถูก" --คุณมาลี ปาละวงศ์ มสธ. ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Fri, 8 November 2019
"เห็นอะไร เราดูอย่างนั้นเลย เราไม่เจาะจง ว่าจะไปดูตัวนั้น ว่าจะไปดูตัวนี้ แล้วแต่จิตเค้าจะดู อะไรมันเด่นจิตจะดูตัวนั้น เรามีหน้าที่รู้อย่างที่เขาเป็น รู้เท่าที่รู้ได้ รู้ไม่ทันก็ไม่เป็นไร" --คุณมาลี ปาละวงศ์ เส้นทางไปสู่วิปัสสนากรรมฐาน หาดใหญ่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ |
Thu, 7 November 2019
"ถ้าเราเดินวิปัสสนา ไม่มีคำว่า แก้ ไม่มีคำว่า ห้าม ไม่มีคำว่า ต้อง ไม่มีคำว่า เปลี่ยน ไม่มีคำว่า อย่า รู้อย่างที่เขาเป็น เพราะทุกอย่างเป็นไตรลักษณ์ เราภาวนาเพื่อมาเห็นไตรลักษณ์ของกายกับใจ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ เส้นทางไปสู่วิปัสสนากรรมฐาน หาดใหญ่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ |
Wed, 6 November 2019
"เมื่อไรที่เรารู้สึกว่ามันยาก ให้รู้ว่าเราทำอะไรผิดอยู่ เพราะพระพุทธเจ้าจะไม่สอนอะไรที่ยากเลย ท่านมีครอบครัว ท่านมีหน้าที่การงานยิ่งใหญ่กว่าเรามากมาย ท่านยังภาวนาได้ กิเลสที่พวกเรามี พระพุทธองค์ก็มีเฉกเช่นเรา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านทำ เราทำได้ แต่เราค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ ดู มันยากตรงที่มันทวนกับความรู้สึกของพวกเรา มันยากตรงมันทวนกับสิ่งที่เราคุ้นเคยมา เพราะฉะนั้นเราแค่ดูตรงนี้" --คุณมาลี ปาละวงศ์ เส้นทางไปสู่วิปัสสนากรรมฐาน หาดใหญ่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ |
Wed, 30 October 2019
"สมถะเหมือนราวบันได วิปัสสนามันคือตอนก้าวไป เรามีสมถะ เรามีราว เรามีหลัก มันจะไม่ล้ม แต่เราเจริญวิปัสสนารวดเดียวเป็นไปไม่ได้ มันต้องมีฐานรองรับ ถ้าฐานเราเข้าใจ หลักเราแม่น จะก้าวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป เวลาล้ม ล้มแล้วรู้ว่าหลักมันอยู่ตรงไหน" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Tue, 29 October 2019
"พระธรรมคำสั่งสอนคือตัวแทนของพระพุทธเจ้า ถ้าเราค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ แล้วศึกษาเรื่องอะไร? เรื่องทุกข์ การที่เราจะรู้ทุกข์ได้ เราก็ต้องมารู้กายรู้ใจเรา เราถึงจะรู้ว่า ทุกข์มันเป็นอย่างไร ทุกข์มันเป็นอย่างไร ความจริงมันเป็นอย่างไร นั่นคือ วิปัสสนากรรมฐาน ที่เราค่อยๆ ศึกษา เราค่อยๆ ลงมือปฏิบัติ ความรู้ ความเข้าใจ เราจะพัฒนาไปเรื่อยๆ เมื่อเราพัฒนาไปถึงจุดนึง เราจะเห็นถูกต้องตามความเป็นจริงได้ ความเป็นจริงว่า กายนี้เรามีไหม? จิตใจนี้เรามีไหม? เพราะฉะนั้น หัวใจของการปฏิบัติจริงๆ อยู่ในชีวิตประจำวัน" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Mon, 28 October 2019
"สัจจะแห่งธรรมะ ถ้าเราเห็นสิ่งใดเกิด สิ่งนั้นมันดับ ถ้าเราเห็นถูกต้องตามปัจจุบันขณะที่มันทำงานอยู่ มันก็จะดับ ถ้าเรารู้ตรงๆ แล้วมันไม่ดับ สภาวะนั้นคือสงสัย ทำไมมันไม่ดับ อยากให้มันดับ ทำไมมันไม่ดับ สงสัย มันก็จะเกิดสภาวะต่างๆ ที่สามารถเห็นได้ต่อ แต่ถ้าเราเห็นอย่างนี้ปุ๊บเราแก้ สภาวะนี้จะค้างอยู่ นั่งสมาธิทีไรก็มาค้างอยู่ตรงนี้ มันค้างอยู่มันไม่หายไป เพราะเราไม่รู้ปัจจุบันขณะที่มันเป็น" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Sun, 27 October 2019
"เวลาเรานั่งสมาธิ ถ้ามันนิ่งให้รู้ทันว่านิ่ง รู้ทันความนิ่งตรงนั้น รู้ทันไปเลย รู้อย่างที่มันเป็น พอเรารู้ทันอย่างที่มันเป็น เดี๋ยวจิตมันจะทำงานต่อ ให้เราดูไปอีก เช่น ถ้าเราเห็นว่ามันเต้น ถ้าเราสงสัย สภาวะนี้สงสัย เรารู้ทันความสงสัยนั้น จิตมันก็จะทำงานต่อ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Sat, 26 October 2019
"ไม่ต้องท้อ มันเป็นไตรลักษณ์ ไม่ต้องกลัว ยังไงจิตก็เป็นไตรลักษณ์ เพ่งก็เป็นไตรลักษณ์ รู้สึกตัวก็เป็นไตรลักษณ์ เราจะภาวนาจนเราไม่รู้ว่าจะเอาอะไร เพราะทุกอย่างมันเกิดแล้วก็ดับ ทุกอย่างเกิดแล้วก็ไป ไม่อยู่ซักอัน แล้วเราจะรู้เลย มันก็แค่นั้น เวลามันมาเนี่ยความรู้สึกตัวมันเกิดขึ้น เรารู้เนื้อรู้ตัวได้ ต่อไปเราจะไม่ได้อินแล้วนะ เราก็รู้สึก เออใช่ มันมา วันนึงเรารู้สึกว่าไม่รู้ตัวเลยวันนี้ทั้งวันเลย ทันทีที่รู้ตัวว่าไม่รู้ตัวปุ๊บ มันรู้ตัวเลย มันจะเป็นอย่างนั้นนะคะ จนกระทั่งจิตมันเป็นกลาง มันเป็นกลางตอนที่เรารู้ว่ามันไม่เป็นกลาง" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Fri, 25 October 2019
"เมื่อไรเรามีสติ ฝึกจนกระทั่งมีสติ รู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง เราจะไม่รู้สึกกับสภาวะที่ว่า จะต้องไม่เอาอันนึง แล้วก็เอาอันนึง เราจะรู้สึกว่าทุกสภาวะเท่ากันด้วยไตรลักษณ์ ไม่ว่าจิตขณะที่เรานั่งสมาธิวันนี้ นั่งแล้วรู้ตื่นเบิกบานดี มันเกิดแล้วมันก็ดับ วันนี้นั่งแล้วฟุ้งซ่านเป็นไง ฟุ้งซ่านเที่ยงมั้ย ก็ไม่เที่ยง มันเกิดแล้วมันก็ดับ แต่จิตอันนี้มันต้องดูจริงๆ ดูของจริงๆ ดูไปเรื่อยๆ วันแล้ววันเล่า วันแล้ววันเล่า จนกระทั่งจิตนี้มันพอ มันเข้าใจ คำว่าพอตรงนี้ไม่พอด้วย มันต้องพอด้วยสมาธิที่มีความตั้งมั่น มันถึงจะเข้าใจ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Thu, 24 October 2019
"เวลาเราเริ่มนั่งสมาธิให้รู้สึกตัวสบายๆ ก่อน โน้มน้อมถึงความสุขนิดหนึ่ง แล้วค่อยลงไปเห็นการหายใจของร่างกาย เห็นว่าร่างกายนี้หายใจเข้า ร่างกายนี้หายใจออก เราฝึกเห็นจิตไหลจิตเคลื่อน เคลื่อนไปอยู่กับความสงบก็รู้ เคลื่อนไปนิ่งๆ ก็รู้ พอดูไปสักพักเราก็เห็นเดี๋ยวจิตก็สงบ เดี๋ยวจิตก็นิ่ง เดี๋ยวจิตก็ฟุ้ง เดี๋ยวจิตก็กลับมาดูร่างกาย แล้วแต่ว่าจิตจะเดินแบบไหน เรามีหน้าที่รู้อย่างที่เขาเป็น แล้วเราจะพบความจริง จิตที่ไหลมันไหลเอง จิตที่สงบมันก็สงบเอง จิตที่ไหลไปมันบังคับให้ไม่ไหลก็ไม่ได้ จิตที่ไม่สงบเราอยากให้เขาสงบ เราก็บังคับให้เขาสงบไม่ได้ แล้วจิตที่ไหล ไหลแล้วก็ดับ จิตที่รู้สึกตัว รู้สึกตัวได้แป๊บหนึ่งก็หายไป เราก็เห็นแค่ว่ามีสิ่งใดเกิดสิ่งนั้นดับ สิ่งที่มันเกิด สิ่งนั้นมันดับ มันเกิดเองและมันก็ดับเอง นี่คือปัญญาขั้นต้นที่เราจะเห็นได้ที่เรียกว่าพระโสดาบัน" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Wed, 23 October 2019
"ทุกครั้งที่เห็นว่าจิตไหล เราได้คะแนนหนึ่งคะแนน เพราะมีสติเกิดขึ้นเรียบร้อย มีสมาธิที่ประกอบด้วยความตั้งมั่นเกิดขึ้นเรียบร้อย แต่ถ้ามันไหลแล้วไม่ให้มันไหล ไปดึงมันกลับมา เราบังคับละ บังคับเพราะอะไร? อยากได้ความสงบ อันนี้ไม่ใช่ทางที่เราจะเดินไป ไม่ใช่การฝึกสมาธิที่ประกอบด้วยความตั้งมั่น บนตั้งมั่นมีความสงบ แต่มันสงบทีละขณะ เดี๋ยวมันก็ไหล เดี๋ยวมันก็มาพัก เดี๋ยวมันก็มาสงบใหม่ แล้วเราจะเห็นอะไร? ความสงบมันสงบเอง จิตที่ไหลมันก็ไหลเอง เราไม่อยากให้มันไหลเราห้ามได้ไหม เราห้ามไม่ได้ เราจะเห็นไตรลักษณ์" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Tue, 22 October 2019
"เราเริ่มต้นนั่งสมาธิจากการลืมตาก่อน ถ้าจิตเดินถูก สมาธิเดินถูก เวลาเริ่มสงบตาจะหลับเอง โดยที่เราไม่ต้องเริ่มจากการหลับตา เพราะถ้าไม่อย่างนั้น เราไม่เข้าใจ พอหลับตาปุ๊บ ถ้ามันไม่เผลอเยิ้มไปเลย ก็จะบังคับ เรานั่งให้สบายก่อน นั่งสบายไม่ต้องหลับตา พอจิตค่อยๆ ปราณีต ค่อยๆ ละเอียดขึ้น ตาก็ค่อยๆ หลับ แต่หลับแบบรู้เนื้อรู้ตัว จะสงบแบบรู้เนื้อรู้ตัว สงบแบบมีความตั้งมั่น ไม่ใช่สงบไปนิ่งๆ เฉยๆ" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Mon, 21 October 2019
"เราค่อยๆ ดู ดูสบายๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องแก้ เราภาวนาเรามีแต่คำว่า สบายๆ เราไม่เครียดๆ แต่ค่อยๆ ทำ สะสมทีละเล็กละน้อยไป" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Sun, 20 October 2019
"เวลาที่เราเป็นนักภาวนา เราเหมือนนักเดินทาง ถ้าเราไม่ภาวนา คนในโลกใบนี้ก็เหมือนนักเดินทางเหมือนกัน แต่วนอยู่ในสังสารวัฎนี้แหละ เวียนตาย เวียนเกิดไปเรื่อยๆ เวียนทุกข์ เวียนสุข ตอนที่สุขเราเข้าใจว่า มันไม่ทุกข์ ข้อเท็จจริง มันทุกข์น้อย มันไม่ใช่ไม่ทุกข์ ถ้าเราดูเป็น เราเข้าใจเป็น วันนึงร่างกายเราทุกข์ตลอดเวลา" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |
Sat, 19 October 2019
"ปัจจุบันขณะเป็นไงรู้อย่างนั้น กังวลแล้วรู้ว่ากังวล ไม่งั้นเราจะสับสนหมดเลย แล้วเราไม่รู้จะปฎิบัติยังไง เห็นมั้ยว่าจิตตอนนี้มันงงๆ งงรู้ว่างงตรงๆ เลย" --คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สการเจริญสติในภาคปฎิบัติ ภูเก็ต ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒ |