Mon, 6 May 2019
"เวลาเราไม่สนองกิเลส กิเลสจะเร้าร้อน เราจะทุกข์ มันจะบีบคั้นให้เห็น ถ้าเราอดทนดูไปเราจะพบว่า ความเร้าร้อนนี้ไม่เที่ยง ความบีบคั้นนี้ไม่เที่ยงมาแล้วก็ไป เนื่องจากว่าไม่มีอะไรเที่ยง กิเลสทั้งปวงที่เกิดขึ้นถ้าเราอดทนดู เดี๋ยวมันก็ค่อยเบาไป และทุกครั้งที่อดทนดูอย่างนี้มันจะได้บารมีอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่าเนกขัมมบารมี คือบารมีที่ออกจากกาม ออกจากโลก จิตจะมีพลังเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เราอดทนมีความเพียรแผดเผากิเลส" --อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ คอร์สการเจริญสติฯ กลุ่มจิตหนึ่ง ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ |
Sun, 5 May 2019
"การทำในรูปแบบเป็นเครื่องช่วยอันหนึ่งในการภาวนา หัวใจของการภาวนาอยู่ที่การเรียนรู้ตัวเอง ถ้าในระหว่างวันเราทิ้งกายทิ้งใจเราตลอดเวลา แล้วเรามาฝืนทำในรูปแบบ แบบซังกะตาย ให้มันรู้สึกว่ามันได้ทำแล้ว เพราะไม่ทำแล้วรู้สึกผิด อันนี้ยังไม่จัดว่ามีสัมมาวายามะ ความเพียรชอบ" --อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ คอร์สการเจริญสติฯ กลุ่มจิตหนึ่ง วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ |
Sat, 4 May 2019
สิ่งใดถูกรู้ถูกดู สิ่งนั้นไม่ใช่เรา - อ.ประสาน คอร์สการเจริญสติฯ กลุ่มจิตหนึ่ง 15 ก.พ. 62 (psn620215A)
"เจตนารู้สึกเมื่อไหร่ ก็มีน้ำหนักเมื่อนั้น ถ้าเจตนาแรง ก็คือโลภแรง น้ำหนักก็เยอะหน่อย มันต้องภาวนาจนถึงจุดที่ว่า ความรู้สึกตัวเป็นอัตโนมัติ ตัวที่เป็นอัตโนมัติ นี่ แล้วเวลาที่สภาวะเกิด สติเกิด ตัวนี้ไม่มีน้ำหนัก" --อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ คอร์สการเจริญสติฯ กลุ่มจิตหนึ่ง วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ |
Fri, 3 May 2019
"ไม่เอาจิตที่นิ่ง เอาสติ จิตเป็นอย่างไรก็ได้ มีกรรมฐานคือมีบ้าน อยู่กับกรรมฐานด้วยใจที่สบาย เช่น พุทโธ อยู่กับพุทโธด้วยใจที่สบาย อย่านึกว่าสภาวะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่พุทโธเอานิ่ง ไม่พุทโธเอาสงบ พุทโธเพื่อที่จะรู้ทันใจของตัวเอง" --อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ คอร์สการเจริญสติฯ จิตหนึ่ง วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ |
Thu, 2 May 2019
"ทำกรรมฐานแล้วก็สนใจที่จิต แต่ไม่ใช่สนใจตลอดเวลา บางทีมันต้องไปหลงอารมณ์บ้าง บางที มันก็มาสนใจจิตตัวเอง ที่ผ่านมา ท่านทั้งหลาย ไม่ค่อยสนใจตัวนี้ และบางทีมันก็หลงโลกไป หลงไปคิด อันนี้ธรรมดา อันนี้เป็นสภาวะที่พวกเราภาวนาชินอยู่แล้ว แต่ปกติก็คือ หลงไปเพ่ง หลงไปปรุงแต่ง พวกเราไม่ค่อยรู้" --อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ คอร์สการเจริญสติฯ กลุ่มจิตหนึ่ง วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ |
Wed, 1 May 2019
"รู้ทันจิตเพื่อให้ได้สมาธิ คือสมาธิเฉพาะในพระพุทธศาสนา ทำให้ได้ลักขณูปนิชฌาน ทำให้ได้จิตที่คู่ควรกับการเดินปัญญา ถึงต้องเรียนจิตสิกขาเพื่อให้ได้สมาธิที่ถูกต้อง สมาธิที่ถูกต้อง คือใจที่อยู่กับเนื้อกับตัวโดยที่ไม่ได้บังคับ ไม่ได้เจตนาให้เป็น" --อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ คอร์สการเจริญสติฯ กลุ่มจิตหนึ่ง วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ |
Tue, 30 April 2019
"เราไม่มีหน้าที่ทำให้จิตมันเข้าบ้าน ถึงฐาน แล้วก็ดีตลอดเวลา มิฉะนั้นเราจะฝืนความเป็นจริงของจิต เรามีหน้าที่ เห็นมันตามความเป็นจริงว่า ขณะนี้สภาวะของเราเป็นอย่างนี้ แล้วขณะที่มีสติรู้เท่าทันว่าสภาวะเป็นอย่างนี้แล้ว ปฏิกิริยาของใจของเรา คือท่าที่ของใจของเรา ต่อสภาวะที่เป็นอยู่ เราเป็นยังไง" --อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ ธรรมราชิกสถูป ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน อินเดีย วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ |
Mon, 29 April 2019
"ทุกครั้งที่จิตเคลื่อน สติเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว จิตดวงนั้นประกอบด้วยสมาธิที่มีความตั้งมั่น ไม่ใช่สมาธิที่สงบ สมาธิที่ประกอบด้วยความตั้งมั่นตัวนี้แหละที่เอาไปเจริญปัญญาต่อ.. เหตุของสมาธิตัวนี้คือความสุข" —คุณมาลี ปาละวงศ์ คอร์สหาดใหญ่ วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๑ |
Sun, 28 April 2019
"เรียนรู้ตัวเองไปเรื่อย จนใจเป็นกลางกับความปรุงแต่งต่างๆ ถึงจะมีโอกาสได้มรรคผล ถ้าใจยังไม่เป็นกลาง ยังเลือกเอาสภาวะใดสภาวะหนึ่ง ยังรังเกียจสภาวะใดสภาวะหนึ่ง ยังหากไกลมรรคผลมากนัก จนถึงจุดที่จะได้มรรคผล ใจจะต้องเข้าสู่ความเป็นอุเบกขาอย่างแท้จริง" --อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ ธรรมเมกขสถูป ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน อินเดีย วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ |
Sat, 27 April 2019
"วิปัสสนามีแต่คำว่ารู้ วิปัสสนาไม่แก้ ไม่ต้อง ไม่ห้าม ไม่เปลี่ยน ไม่อยาก อย่าทำอย่างนั้น อย่าทำอย่างนี้ ไม่ใช่วิปัสสนา ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ ก็ไม่มีในวิปัสสนา เปลี่ยน แก้ ไม่มีในวิปัสสนา" --คุณมาลี ปาละวงศ์ บ้านจิตสบาย วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ |