Thu, 26 May 2016
"รู้เผลอบ่อยๆ เร็วที่สุดแล้ว จิตเผลอเมื่อไหร่ รู้เนี่ย เร็วที่สุดแล้ว รู้แล้วจบที่รู้ รู้บ่อยๆ เร็ว เป็นทางลัดที่สุด" ทันตแพทย์ณัฏฐ์ ศรีวชิรวัฒน์ บ้านสติ ขอนแก่น วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๙ |
Thu, 26 May 2016
อย่าคิดว่าการปฏิบัติธรรมมันเป็นอะไรที่ต้องทำ ถ้าเมื่อไรเราคิดแบบนี้ เราจะรู้สึกว่ามันยาก มันต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ จริงๆ ธรรมะง่ายกว่านั้น มาดูแค่กายแค่ใจนี่แหละ |
Wed, 25 May 2016
เรามาดูร่างกายนี้หายใจเข้าร่างกายนี้หายใจออก ข้อเท็จจริงเราทำเพื่อมาเห็นว่ากายเขาทำงานยังไง จิตใจเขาทำงานยังไง เมื่่อเห็นแล้วจิตยินดียินร้ายให้เรารู้ตาม จากนั้นปัญญามันจะเดินเลยว่าอ๋อ... ไอ้ลมเนี่ย ตัวนี้มันหายใจร่างกายนี้ มันหายใจ ไม่ใช่เราหายใจ มันไหลออกไปอีกแล้ว มันหายใจดีๆ มันเห็นลมหายใจ มันเห็น พุทโธ อยู่ดีๆ ใจมันก็ไหลไปคิด...มันไหลไปได้เอง แล้วมันก็คิดได้เอง อยู่ดีๆนั่งไปสักพักจิตมันสงบ ปิติมันเกิด ปิติมันเกิดเอง ปิติไม่ใช่เรา ความฟุ้งซ่านนี่ก็ไม่ใช่เรานะคะ |
Wed, 25 May 2016
|
Sun, 22 May 2016
เวลาฝึก ปัญหาก็คือ บางทีเราอยากได้ผลเร็ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องคาดหวังว่าทำแล้วจะได้ผล วันนี้ทำแล้วไม่ได้ผลอะไรเลย ก็ไปทำต่อพรุ่งนี้ วันนี้เกิดสติได้น้อย พรุ่งนี้ก็ฝึกต่ออีก วันนี้ยังไม่ได้นิพพาน พรุ่งนี้ก็ฝึกต่ออีก ฝึกทุกวันไม่ขี้เกียจ และก็อย่าท้อ |
Sun, 22 May 2016
"ฝึกไปแล้ว จิตใจเราจะดีหรือไม่ดี ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญอยุ่ที่ จิตจะดีหรือไม่ดี ก็เป็นไตรลักษณ์เหมือนๆกัน ต้องฝึกให้เห็นไตรลักษณ์ของกายของจิตให้ได้ อย่าท้อ และก็อย่าเลิกนะ ถ้าเราไม่เลิก เราฝึกไปเรื่อยๆ วันนึงมรรคผลนิพพานก็จะเกิดขึ้น ชาวพุทธต้องฝึกกันอย่างนี้" ธรรมะบรรยายโดยอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ในคอร์สอังกฤษ วันที่ 12 มีนาคม 2559 |
Sun, 22 May 2016
|
Sun, 22 May 2016
"เราต้องฝึกตัวเองให้เกิดจิตตั้งมั่นก่อน พอเรามีจิตตั่งมั่นแล้วเราจึงจะเจริญปัญญาต่อไปได้ แต่เริ่มแรกก่อนที่เราจะฝึก ก็มีแนวทาง 2 แนวทางหลักๆ แต่ไม่ว่าจะใช้แนวทางไหน ก็ต้องกลับมาเรียนที่กายทีใจของตัวเอง เป้าหมายที่แท้จริงของพระพุทธศาสนาคือการเข้าใจความจริง เมื่อเราเข้าใจความจริงได้ เราก็จะปล่อยความยึดถือได้ และเราจะมุ่งเป้าไปที่การปล่อยความยึดถือกาย ยึดถือใจเราตัวเองเป็นสำคัญ ถ้าเราจะฝึกเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุด เราต้องเริ่มต้นให้ถูก ไม่เช่นนั้นเราจะไม่อาจปฏิบัติให้ได้ผลตามที่ควรจะเป็น และจุดเริ่มต้นของการภาวนา นั่นก็คือ สติ นั่นเอง" อาจารย์สุรวัฒน์ คอร์สภาษาอังกฤษ ๓ วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๙ |
Sun, 15 May 2016
สมาธิ ไม่เหมือนสติ ไม่เหมือนปัญญา เมื่อใดมีสติ เมื่อนั้นมีกุศล เมื่อใดมีปัญญา เมื่อนั้นมีกุศล ไม่เหมือนสมาธิ สมาธิสามารถประกอบด้วยกิเลสก็ได้ เช่น เราสงบ แต่ใจมัว ใจซึม จิตประกอบด้วยโมหะ สมาธิแบบที่ ๑ ถ้าทำผิด บังคับใจมากเกินไป วันหนึ่งบ้าได้ เช่น บังคับตัวเองจนเครียดในที่สุดบ้า หรือ ทำสมาธิแบบที่ ๑ ไม่มีสติเห็นนิมิตมากมาย แยกอะไรไม่ออก อันไหนของจริง อันไหนของปลอม เห็นเทวดา ก็ไม่รู้ว่า ใจปรุงขึ้นเอง หรือเทวดาจริงๆ โดยเฉพาะการทำณาน ควรฝึกภายใต้การควบคุมดูแลของอาจารย์ที่ชำนาญ ถึงจะปลอดภัย ส่วนสมาธิแบบที่ ๒ ทำง่ายและไม่มีอันตรายอะไร คุณประสาน คอร์สภาษาอังกฤษ ๓ วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๙ |
Sun, 15 May 2016
psn160312 คุณประสาน (พร้อมแปลอังกฤษ) The Best Samadhi is Achieved through Wisdom Cultivation 12 มี.ค.59
บรรยายธรรมะโดยคุณประสาน พุทธกุลสมศิริ พร้อมแปลภาษาอังกฤษ ในคอร์สอังกฤษ 12 มีนาคม 2559 |
Sun, 15 May 2016
บรรยายธรรมะโดยคุณประสาน พุทธกุลสมศิริ พร้อมเสียงแปลภาษาอังกฤษ ในคอร์สอังกฤษ วันที่ 11 มีนาคม 2559 B |
Sun, 15 May 2016
"ใจที่เป็นปกติ มีธรรมชาติ สว่างไสว มีสมาธิในตัว ใจจะเศร้าหมอง เมื่อถูกกิเลสครอบงำ จิตมีธรรมชาติ ประภัสสร จิตจะเศร้าหมอง เมื่อกิเลสจรมา เวลาเราจะปฏิบัติให้วางใจว่า เอาความรู้สึกตัว เอาสตินำ ไม่ใช่ให้เอาความสงบนำ ความสงบจะเป็นผลจากเหตุที่ถูกต้อง เมื่อใดที่เรานั่งสมาธิด้วยความโลภ จิตจะไม่มีวันสงบ เพราะความอยาก ความโลภ เป็นกิเลสตัวหนึ่ง ถ้าเราเริ่มด้วยความโลภ ใจจะสงบ สว่างไสวได้อย่างไร ถ้าเริ่มต้นแล้ว อยากดี อยากสงบ ให้รู้ว่าอยากดี อยากสงบ" คุณประสาน - การทำสมาธิแบบลักขณูปนิชฌาน (ภาคปฏิบัติ) คอร์สอังกฤษ วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ (psn590311B) |
Fri, 6 May 2016
คุณประสาน พุทธกุลมสมศิริ คอร์สอังกฤษ 11 มีนาคม 2559 |
Fri, 6 May 2016
"หน้าที่ของพวกเรา คือ เจริญวิปัสสนา และ รู้ทุกข์ ทำให้มาก ทำสิ่งเดียวแล้วส่วนที่เหลือจะตามมา มนุษย์เป็นอันมาก เมื่อถูกภัย ถูกความกลัว ถูกความทุกข์คุกคาม ก็ถือเอาภูเขา เอาต้นไม้ เอาอาราม เอารุกขเจดีย์ เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งบ้าง แต่นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษม ไม่ใช่ที่พึ่งอันปลอดภัย เขาอาศัยที่พึ่งเหล่านั้น ย่อมไม่อาจพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ บุคคลใดมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง เข้าถึงความจริงอันประเสรืฐคือ อริยสัจ 4 คือ รู้แจ้งทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ หนทางปฏิบัติเพื่อให้ถึงความดับทุกข์ นั่นแหละ ถึงจะเป็นที่พึ่งอันเกษม เป็นที่พึ่งอันปลอดภัย เขาอาศัยที่พึ่งนั้นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้" คุณประสาน พุทธกุลสมศิริ "หน้าที่ต่ออริยสัจ" คอร์สภาษาอังกฤษ ครั้งที่ ๓ วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ช่วงที่ ๑ |
Fri, 6 May 2016
psn160310D คุณประสาน (พร้อมแปลอังกฤษ) The Manner in Which We Take Refuge in Buddha, Dhamma, Sangha 10 มี.ค. 59 D
คุณประสาน พุทธกุลสมศิริ ในคอร์สอังกฤษ พร้อมแปลภาษาอังกฤษ 10 มีนาคม 2559 |
Fri, 6 May 2016
psn590310D คุณประสาน - พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งของเราได้อย่างไร - คอร์สอังกฤษ 10 มี.ค. 59 D
"พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ใช่เป็นที่พึ่ง ที่ร้องขอ อยากได้สิ่งโน้น สิ่งนี้ เราไม่ได้สวดเพื่อให้ชีวิตสุขสบาย หรือร่ำรวย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งได้ ก็ต่อเมื่อ พวกเรานำเอาธรรมะ เอาวิธีการปฏิบัติ เรียนรู้การปฏิบัติและนำไปปฏิบ้ติจนเห็นผลด้วยตนเอง พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า... บุคคลใดถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง บุคคลใดถึงอริยะสัจ 4 เข้าใจแจ่มแจ้งซึ่งทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ แจ่มแจ้งในทางพ้นทุกข์ แจ่มแจ้งในความดับทุกข์ แจ่มแจ้งในหนทางปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์ เขาผู้นั้นจึงจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้" คุณประสาน - "พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งของเราได้อย่างไร" คอร์สภาษาอังกฤษ ๓ วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๙ |
Fri, 6 May 2016
psn160310C คุณประสาน (พร้อมแปลอังกฤษ) No One Can Ripen the Mind to Enlightenment, It Ripes when It Does 10 มี.ค.59 C
บรรยายธรรมะโดยคุณประสาน พุทธกุลสมศิริในคอร์สอังกฤษ พร้อมเสียงแปลภาษาอังกฤษ วันที่ 10 มีนาคม 2559 C |
Fri, 6 May 2016
"ทำให้มรรคผลเกิดไม่ได้ มรรคผลเกิดขึ้นเอง เมื่อทุกอย่างสุกงอมสมบูรณ์มรรคผลจะเกิดขึ้น พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า ชาวนามีหน้าที่ 3 อย่าง ไถนา หว่านข้าว เอาน้ำเข้านา น้ำมากก็เอาน้ำออก น้ำน้อยก็เอาน้ำเข้า ชาวนาทำได้แคนี้ ชาวนาจะเรียกร้องให้ข้าวโตเร็วๆ จงออกรวงเร็วๆ ให้ผลผลิตเร็ว ๆ ชาวนาทำไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ข้าวมันจะออกรวงเอง นักภาวนามีหน้าที่ ๓ อย่าง เป็นสิ่งที่ต้องเรียนและทำให้ถึงพร้อม คือ บทเรียนที่ ๑ คือ ศีลสิกขา คือบทเรียน เรื่องศีล บทเรียนที่ ๒ คือ จิตตสิกขา คือบทเรียน เรื่องจิต บทเรียนที่ ๓ คือ ปัญญาสิกขา คือบทเรียนเรื่อง ปัญญา เมื่อนักภาวนาเรียนบทเรียนได้อย่างบริสุทธิ์ บริบูรณ์แล้ว ถึงเวลามรรคผลจะเกิดขึ้นเอง" คุณประสาน พุทธกุลสมศิริ - "ไม่มีใครทำจิตให้บรรลุมรรคผลได้ จิตบรรลุของจิตเอง" คอร์สภาษาอังกฤษครั้งที่ ๓ วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๙ ช่วงที่ ๓ |