Thu, 14 February 2019
"หลงแล้วรู้ว่าหลงใช้ได้ ไม่ใช่ปฏิบัติเพิ่อให้หลงน้อย ปฏิบัติเพื่อให้รู้ว่าหลง หน้าที่เราก็คือปฏิบัติเพื่อให้รู้ว่าเมื่อกี้นี้หลง มันจะได้สักกี่ครั้งช่างมัน อย่าไปหาวิธีให้มันหลงสั้นๆ อย่าไปหา อย่าไปดิ้นร้น เพราะดิ้นรนเมื่อไร มันเจตนาปฏิบัติขึ้นมาแล้ว มันจะได้ของปลอม" -- อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา งานสนทนาธรรมตามกาลครั้งที่ ๒๘ วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๑ |
Wed, 9 January 2019
"แต่ละคนก็มีนิสัยของตัวเองไม่เหมือนกัน บางคนก็นั่งใจลอย คิดโน่นคิดนี่ บางคนก็จะขี้โมโห บางคนอะไรนิดอะไรหน่อยก็หงุดหงิด บางคนเห็นอะไรไม่ได้ก็จะซื้อแหลกเลย นั่นแหละแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เราเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นแหละ แค่เติม การรู้ ลงไปว่ามันมีสภาวะอันนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว พอเห็นว่ามันเป็นอย่างนั้นอีกแล้ว ก็จบ ปฏิบัติเสร็จแล้ว" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สจีน ๙ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๑ |
Tue, 1 January 2019
"ถ้าเห็นจิตโลภ จิตโกรธ จิตหลง แล้วมันยังไม่ดับ แสดงว่า จิตมันยังไม่ตั้งมั่น ตรงนั้นมันมีแค่ สติเฉยๆ พอจิตมันไม่ตั้งมั่น กิเลสมันไม่ดับ กิเลสไม่ดับ มันก็เจริญปัญญาไม่ได้" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวัฒนา สนทนาธรรมตามกาล ๒๗ วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๑ |
Sun, 2 December 2018
"ปัญหาคือ พวกเราคาดหวังอะไรบางสิ่งบางอย่าง คาดหวังผลอะไรบางอย่าง อย่าไปคาดหวัง ยอมรับที่มันเป็น มันง่ายที่สุดแล้ว แล้วจะรู้ว่าภาวนา ยังไงก็ได้ ยังไงก็ได้ วันนี้ไม่ดี ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้จะไม่ดี วันนี้ดี ก็ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้จะดีอีก ดีก็ได้ ไม่ดีก็ได้ ยังไงก็ดูไปอย่างนั้น มันจะง่ายที่สุดแล้ว" --อาจารย์สุรวัฒน์และทันตแพทย์ณัฎฐ์ คอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง จ.กระบี่ วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๑
Category:Surawat
-- posted at: 6:00am +07
|
Thu, 29 November 2018
"สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเราทั้งหมดก็คือ สอนให้เราทำอย่างไรให้หลุดพ้น วิธีหลุดพ้นท่านก็สอนไว้เสร็จแล้วก็คือ ต้องให้จิตมาเรียนรู้ความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือเรียนรู้ความเป็นไตรลักษณ์ ทำอย่างไรให้จิตเรียนรู้อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาได้ก็ต้องมีจิตตั้งมั่น" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง จ. กระบี่ วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๑
Category:Surawat
-- posted at: 6:00am +07
|
Fri, 26 October 2018
|
Sat, 22 September 2018
|
Mon, 23 July 2018
"ธรรมะของพระพุทธเจ้า ท่านสอนให้เรียนเข้ามาที่กายที่ใจตัวเอง เพราะว่ากายใจตัวเองนี่แหละ มันคือตัวทุกข์ ถ้าเราไปอ่านอริยสัจ ทุกขสัจ พระพุทธเจ้าก็แจกแจง คำว่าทุกข์ ไว้มากมาย มีความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นทุกข์ สุดท้ายท่านขมวดประโยคสุดท้ายว่า อุปทานขันธ์ทั้ง 5 เป็นตัวทุกข์ อุปทานขันธ์ทั้ง 5 คืออะไร คือร่างกาย จิตใจ เรานี่แหละ เป็นที่ตั้งของความยึดมั่นถือมั่น ตัวนี้แหละคือตัวทุกข์" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมตามกาล 21 M Academy วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ |
Sun, 8 July 2018
"ถ้านั่งสมาธิไม่เป็น นั่งไม่ได้ จิตไม่สงบ ฟุ้งตลอด หลับตลอด อันนี้เป็นตัวบ่งบอก ว่าจริตนิสัยเรา ไม่เหมาะที่จะทำฌาน แล้วให้เกิดจิตที่ตั้งมั่น เราก็ต้องอาศัยวิธีให้เกิดจิตตั้งมั่นขึ้นมาอีกวิธีหนึ่ง อาศัยการมีสติ รู้กาย รู้ใจ ตัวเองนี้แหละ วิธีนี้เป็นวิธีที่คนยุคนี้เหมาะที่จะใช้วิธีนี้มาก" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา บ้านจิตสบาย วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๐ |
Tue, 20 February 2018
“ทำไมต้องมีความตั้งมั่นของจิต เพราะว่าจิตที่มีความตั้งมั่น หรือความตั้งมั่นของจิตนี้แหละ เป็นเครื่องมือที่จะนำไปสู่ การเรียนรู้ความจริงของกายของใจเราเอง ความจริงที่ต้องเรียนรู้ มีอยู่ ๓ เรื่อง คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือที่เรียกว่า ไตรลักษณ์ จะเรียนไตรลักษณ์ได้ จะต้องเห็นกายเห็นใจด้วยจิตที่มีความตั้งมั่น หรือเห็นด้วยจิตที่มีสมาธิ” ... --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมตามกาล 19 ณ M Academy วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 1 January 2018
"การปฏิบัติไม่ได้ขึ้นอยู่ว่า ต้องเห็นอะไร การปฎิบัติ อยู่ที่ว่า อะไรเกิดขึ้น สังเกตมันไปเรื่อยๆ แค่รู้แค่ดูไปเรื่อยๆ ปล่อยให้จิตเรียนรู้ของจิตเอง เราอย่าไปช่วยจิตเรียนรู้ อย่าเอาความคิด ความเข้าใจ ความเห็นของเราไปช่วยจิตมัน เพราะความคิดความเห็นเรา มันยังเจืออวิชชาเยอะ พอเราเอาความคิดความเห็นเราไปสอนจิต สอนตัวเอง สิ่งที่เราได้ก็คือ ความเข้าใจผิดๆ เพราะฉะนั้น สุดท้ายอาศัยการมีสติรู้กายรู้ใจตามที่มันเป็น ไม่ต้องบังคับจิตไว้ ไม่ต้องพยายามสร้างสภาวะขึ้นมา ไม่ต้องไปสร้างนิมิตแสงสีอะไรขึ้นมาทั้งสิ้นเลย ถ้ามันจะเกิด ให้มันเกิดเอง แล้วเราก็ดูมันเกิดดับเหมือนกัน" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมตามกาล ณ M Academy วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Sat, 16 December 2017
"ตรงที่เห็นจิตไหลแว็บ มันแว็บเดียวจริงๆ เงียบๆ ด้วย ไม่มีคำพูด นั่นแหละคือ การปฏิบัติ เกินจากนั้นเมื่อไหร่ หลงคิดหมดเลย คือปฏิบัติอยู่ มันก็ปฏิบัติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า มันดิ้น ดิ้นจะให้ก้าวหน้า ดิ้นจะให้ได้ผลเร็วๆ ตรงนี้ เป็นกับดัก ถ้าดิ้นอยู่อย่างนี้ ปฏิบัติไปอีกนาน ก็ไม่ได้หรอก ต้องเลิกดิ้นให้ได้ ดูด้วยใจที่เป็นกลางจริงๆ ดูด้วยใจที่เฉยๆ" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สเจริญสติและสมาธิในชีวิตประจำวัน กฟผ. วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๐ |
Tue, 5 December 2017
"พอเรามีสติ รู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริงไป เรื่อยๆ จิตมันจะมีความเป็นกลาง พอมีสติรู้กาย รู้ใจตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง ตรงนี้แหละจะทำให้เกิดความเจริญขึ้นของปัญญา ปัญญาเจริญถึงที่สุดเมื่อไหร่ ก็เป็นพระอรหันต์เมื่อนั้น" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สกลุ่มธรรมทาน วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๐ |
Mon, 20 November 2017
"วิธีที่หลวงพ่อสอนคนทั่วไป ท่านสอนให้มีสติ มีสติบ่อยๆ แล้วจิตมันจะตั้งมั่นขึ้นมาอัตโนมัติ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเข้าฌาน พอมีจิตตั้งมั่นแล้ว ก็ใช้จิตตั้งมั่นนี้แหละ ดูให้เห็นไตรลักษณ์ของกายของใจ ซึ่งก็คือการทำวิปัสสนานั่นเอง เพราะฉะนั้นฝึกมีสติ ให้เกิดจิตตั้งมั่น แล้วก็เจริญปัญญา อันนี้เป็นวิธีสำหรับคนที่เข้าฌานไม่ได้ ถ้าคนเข้าฌานได้ ก็เข้าฌานให้เกิดจิตตั้งมั่น แล้วออกจากฌานมาทำวิปัสสนา หรืออีกพวกหนึ่งเข้าฌานมีจิตตั้งมั่นแล้ว ก็ไปทำวิปัสสนาในฌาน แบบหลังนี้มีคนทำได้น้อยมาก ๆ ที่ทำได้เยอะสุดก็คือแบบแรก" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สจีน ๗ วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 9 October 2017
"จิตตั้งมั่น คือจิตที่จะใช้ในการเจริญปัญญา ถ้าไม่มีจิตตั้งมั่น จะเจริญปัญญาไม่ได้ มันไม่สามารถจะเห็นกายเห็นใจ ที่กำลังเป็นไตรลักษณ์อยู่ได้ ทั้งที่ไตรลักษณ์มันก็ปรากฎอยู่ แสดงตัวอยู่ตลอดเวลา แต่จิตที่ไม่ตั้งมั่น จะไม่สามารถไปรับรู้ ความเป็นไตรลักษณ์ของกายของจิตได้" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมตามกาล ๑๕ วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Thu, 5 October 2017
"เบื้องต้นต้องดูตนเองให้ออกนะว่า จิตเราตั้งมั่นหรือยัง มีใครเห็นจิตตัวเองไหลออกไปข้างนอกบ้าง เห็นไหม ไหลไปแล้วทำยังไง เวลาไหลไปแล้ว....รู้ แล้วเป็นยังไง มันกลับมาอยู่ที่ตัวไหม ถ้าไหลไปแล้วเรารู้ แวบหนึ่งกลับมาอยู่ที่ตัว นี่คือตั้งมั่นได้แล้วนะ แต่มันแค่แวบเดียว แล้วถ้าเราสังเกต ตรงแวบนั้น เราจะรู้สึกเลยว่า จิตที่ไหลไปกับจิตที่อยู่ที่ตัวเองนี่ มันไม่เหมือนกัน ตรงนี้เห็นกันไหม ถ้าเห็นตรงนี้ได้ มันก็คือเดินปัญญาอยู่แล้วละ แวบหนึ่งที่เห็นว่าจิตไหลไป แล้วก็กลับมารู้ตัวเอง มันจะเห็นจิตที่ไหลไปดับ พอจิตที่ไหลไปดับ จะกลับมารู้สึกอยู่ที่ตัวเอง เพราะฉะนั้น แวบตรงนั้น มันจะเห็นจิตเกิดดับแล้ว การเห็นจิตเกิดดับนี่ก็คือ การเจริญปัญญาอยู่" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สจีน ๗ วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Sat, 23 September 2017
"จิตจะยอมรับความจริงได้ เกิดจากกระบวนการที่จิตเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ไม่ได้ยอมรับด้วยกระบวนการคิด ไม่ได้ยอมรับด้วยกระบวนการทำความเข้าใจ ในระดับสัญญา ในระดับความปรุงแต่ง ไม่ใช่ แต่เป็นการยอมรับด้วยการเห็นสิ่งนั้น ซ้ำๆๆๆ" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา บ้านจิตสบาย วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ |
Fri, 22 September 2017
"การที่เราไปคิดบวก มันทำให้ได้แค่ความสงบ มันไม่ได้ทำให้เกิดจิตตั้งมั่น มันไม่ได้ทำให้เห็นไตรลักษณ์ เมื่อไหร่ที่ ไม่เห็นไตรลักษณ์ เมื่อไหร่ที่ จิตไม่ตั้งมั่นเห็นไตรลักษณ์ ไม่ใช่วิธีการปฏิบัติของพุทธ" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมตามกาล 13 ณ M Academy วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๐ |
Mon, 18 September 2017
"ทำในรูปแบบเนี่ย จริงๆ แล้ว มันคือการที่เราเอาเวลามาอยู่กับตัวเอง เราไม่สนใจโลกภายนอก โลกภายนอกจะเป็นยังไง เราตัดทิ้งหมดเลย เรามาอยู่กับตัวเราเอง หากิจกรรมทำ อะไรก็ได้นะ กระทั่งกวาดบ้าน ก็ยังเป็นรูปแบบได้ ออกไปเดินเล่นโดยที่ไม่สนใจใครเลย ก็ได้" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา บ้านจิตสบาย วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๐ |
Sat, 2 September 2017
"การปฏิบัติคืออะไร การปฏิบัติคือการที่เรามาสังเกตตัวเอง เดี๋ยวก็เป็นอย่างงั้น เดี๋ยวก็เป็นอย่างงี้ ไม่มีคำว่า "ต้อง" กระทั่ง ต้องมีสมาธิ ก็ไม่มี ต้องมีสติ ก็ไม่มี ไม่มีคำว่า "ต้อง" มีเท่าที่มีได้ สังเกตเท่าที่มันมี แค่นั้นเอง แล้วการภาวนามันจะง่าย" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา บ้านจิตสบาย วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ |
Tue, 30 May 2017
"ถ้าเราไม่รักษาศีล จิตมันจะไม่ค่อยสงบ จิตมันจะค่อนข้างที่จะเร่าร้อน ค่อนข้างที่จะกังวล อย่างเราไปทำผิดอะไรมา เราคิดว่าเราไม่รู้สึกอะไรหรอก เราคิดว่าสิ่งนั้นไม่ใช่การทำผิดอะไร เราไม่ต้องรับโทษอะไรก็ตามนะ แต่ลึกๆ ของจิตเนี่ยมันจะมีความเร่าร้อนอยู่ แต่เราดูไม่ออก เพราะฉะนั้นถ้าจะปฏิบัติธรรมให้ได้ผล เบื้องต้นเราต้องรักษาศีล อย่างน้อยศีลห้าก่อน" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์ส กฟผ. วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐ |
Sat, 29 April 2017
"เราไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ อย่าประมาท เพราะฉะนั้น มีโอกาสฝึกสติได้ตอนไหนก็ฝึกไป อย่าเอาเวลาไปเที่ยวเล่นหมด ไม่มีประโยชน์ มีสติทีละแว๊บ ทีละแว๊บ ไปเรื่อยๆ มันก็จะได้สั่งสมสติปัญญาขึ้นมา เมื่อไหร่สติอัตโนมัติ ก็พร้อมตายแล้ว" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมตามกาล 11 วันที่ 2 เมษายน 2560 |
Wed, 12 April 2017
"จะเห็นหยาบ เห็นละเอียด สุดท้ายทุกสภาวะ จะหยาบหรือละเอียด มันเสมอกันด้วยความเป็นไตรลักษณ์ เพราะฉะนั้น เราเห็นหยาบ เราก็ดูหยาบ ดูหยาบมันก็สอนไตรลักษณ์เราได้ อยู่ที่เราจะยอมรับความเป็นไตรลักษณ์ได้เร็วแค่ไหน ถ้าจิตยอมรับความเป็นไตรลักษณ์ได้เร็ว ก็เข้าใจธรรมะได้เร็ว ไม่ใช่ว่าอยู่ที่เห็นละเอียดแล้วจะยอมรับธรรมะได้เร็วนะ" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมตามกาล 9 ณ M Academy วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 |
Sun, 19 March 2017
"การระลึกได้ จะต้องเป็นการระลึกถึงสภาวะที่กำลังเป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ถึงจะเรียกว่า "มีสติ รู้กาย รู้ใจ" รู้ยังไง รู้ตามที่มันเป็น มันโกรธก็รู้ มันโลภก็รู้ มันหลงก็รู้ มันฟุ้งซ่านก็รู้ มันหดหู่ก็รู้ มันสงบก็รู้ มันยังไงก็ตามแต่ มันมีอะไรเกิดขึ้นในจิตเราเราก็รู้ ร่างกายเคลื่อนไหวก็รู้ เป็นอะไรก็รู้ไปเรื่อยๆ ก็รู้ไปตามที่มันเป็นจริง ความเป็นจริงของมันก็คือ สภาวะที่มันไม่เคยเกิด พอมีเหตุปัจจัยเดี๋ยวมันก็เกิดขึ้นมา สภาวะที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว พอหมดเหตุปัจจัยเด่วมันก็ดับไป ก็ดูไปอย่างนี้ ดูไปตามที่มันเป็น มันจะเกิดก็รู้ มันจะดับก็รู้ ไม่ต้องไปแทรกแซง ไม่ต้องไปเจตนาที่จะเบี่ยงเบนอะไรทั้งหลาย เราก็จะได้ "การมีสติ รู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง" ถ้ารู้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ใจมันจะค่อยๆ ตั้งมั่นและเป็นกลางขึ้นมา" --อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมตามกาล 7 ณ หอศิลปฯ กรุงเทพ 18 ธันวาคม 2559 |
Sat, 25 February 2017
"...ใช้หลักพอเพียงนี่แหละดีที่สุดเลย มีสติรู้ได้แค่นี้ ก็รู้แค่นี้แหละ ไม่ต้องดิ้นรนจะรู้ให้ได้มากกว่านี้ ถ้ามันจะรู้ให้ได้มากกว่านี้ ก็ให้มันรู้ได้เอง ทำสมถะไม่ได้ เราก็ไปหาอะไรทำที่มันมีความสุขสบายใจพักผ่อน เราก็ทำของเราแค่นั้น ไม่ต้องดิ้นรนทำสมถะให้ได้ เห็นกายไม่ใช่เราไม่ได้ ก็ไม่ต้องดิ้นรนจะดูให้เห็น ให้มันเห็นเอง - เราเห็นอะไร เราดูอันนั้น ก็เหมือนเราจะกินข้าวนั่นแหละ บนโต๊ะมีอะไรกินเราก็กินอันนั้นแหละ ไม่ใช่บนโต๊ะมีอันนี้ ฉันกินไม่ได้ ฉันต้องไปสั่งพิเศษมากิน อันนี้เกินพอเพียง... เพราะฉะนั้น เราภาวนามีสภาวะอะไรให้ดู เราดูแค่ที่มันมีให้ดู อันไหนไม่มีให้ดู อย่าดิ้นรนไปดูมัน อย่าควานหา อย่าพยายามดู เนี่ย แค่ทำแค่นี้ การภาวนาเราจะสบายไม่มีภาระและจะก้าวหน้าเร็ว เชื่อปะ กลับไปลองดู แล้วเราจะรู้สึกว่า เรารู้แค่นี้ พอใจแล้ว" -- ฆราวาสธรรม อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง จังหวัดชลบุรี วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ |
Fri, 24 February 2017
"ทำยังไงถึงจะถึงฐาน.. ทำไมต้องทำละ เราไม่ได้ทำนะ จิตจะถึงฐานไม่ถึงฐานเราทำเองไม่ได้ จิตจะตั้งมั่นหรือไม่ตั้งมั่นทำไม่ได้ ทำให้ตั้งมั่นก็ไม่ได้ ทำให้ถึงฐานก็ไม่ได้ ทำให้เห็นไตรลักษณ์ก็ไม่ได้ คำว่า *ทำ* เป็นคำแสลงเลยแหละ - ไม่ต้องคิดจะทำ แค่คิดจะทำก็ผิดแล้ว นึกออกไหม ทำไมเราต้องทำโน้น ทำนี่ ทำนั่นล่ะ หน้าที่เราแค่รู้กายรู้ใจ รู้เพียงพอเมื่อไหร่ มันถึงฐานเองเมื่อนั้น รู้เพียงพอเมื่อไหร่ จิตตั้งมั่นเองเมื่อนั้น รู้เพียงพอเมื่อไหร่ ปัญญาเกิดเมื่อนั้น" -- ฆราวาสธรรม อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สรู้กายรู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
|
Fri, 24 February 2017
|
Fri, 24 February 2017
|
Fri, 24 February 2017
|
Fri, 24 February 2017
"ไม่ใช่ว่าจะต้องดีนะ ไม่ใช่ว่าจิตจะต้องตื่นตัวตลอดเวลา ไม่ใช่นะ จิตจะหลับไหลไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร ให้รู้เอา ให้รู้ไปตามที่มันเป็น ตามที่จิตมันเป็น แต่เราไปอยากให้มันเป็น ในสิ่งที่มันไม่เป็น เราก็เลยรู้สึกว่า เราขาดอะไรบางอย่าง เราเลยรู้สึกว่า มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น จริงๆมันไม่มีมากกว่านั้น เราคิดไปเอง ไม่ต้องไปรีบร้อน" -- อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ชมรมสารธรรมล้านนา จ.เชียงใหม่ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ (swt591106C)
|
Sat, 18 February 2017
"เคล็ดลับมันอยู่ตรงนี้ - แค่รู้ทุกอย่าง รู้กายรู้ใจ ให้รู้มันแบบแค่รู้แค่ดู ถ้าแค่รู้แค่ดูได้ ไม่ต้องห่วงหรอกว่าจิตจะไม่เดินปัญญา ทำไมผมถึงบอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะว่าพวกเราฟังซีดีหลวงพ่อปราโมทย์ประจำ ซีดีหลวงพ่อท่านสอนถึงวิธีเดินปัญญาไว้แล้ว การที่เราได้ฟังถึงวิธีการเดินปัญญา แล้วเราภาวนามาจนกระทั่งถึงจุดที่จิตตั้งมั่นได้ จิตมันจะเดินปัญญาเป็นอัตโนมัติ เพราะมันเคยฟังธรรมมาแล้ว แต่ถ้าไม่เคยฟังธรรมเลย อันนี้น่าห่วง เพราะต่อให้มีจิตตั้งมั่น ก็เดินปัญญาไม่เป็น" -- อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ชมรมสารธรรมล้านนา จ.เชียงใหม่ |
Mon, 9 January 2017
"เราไม่จำเป็นจะต้องทำในรูปแบบเพื่อจะให้จิตสงบนิ่งนะ ไม่จำเป็น ถ้ามันสงบก็ให้มันสงบเอง ถ้ามันนิ่งก็ให้มันนิ่งเอง แต่เราไม่ต้องไปกดข่มจิตลงไป เพราะถ้าไปกดข่มจิต บังคับจิต มันจะเกิดความเครียดขึ้นมา เมื่อไรที่ร่างกายกับจิตใจมันเครียด โอกาสที่เราจะเกิดสติอัตโนมัติแทบไม่มีเลย เพราะฉะนั้นเราต้องภาวนาด้วยร่างกายที่ผ่อนคลาย ภาวนาด้วยใจที่ผ่อนคลาย สบายๆ" -- ฆราวาสธรรม อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง จ.ชลบุรี วันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 |
Thu, 5 January 2017
"เราคิดว่า การภาวนาดี คือ การทำจิตให้ไม่ไหล ไม่ใช่นะ การภาวนาดี คือการรู้ทันจิตที่ไหลต่างหาก นั่นแหละเรียกว่า ภาวนาดี แต่การพยายามทำจิตไม่ให้ไหล นี่ เรียกว่าภาวนาผิด ปัญหาคือ เราจะติดภาพพวกนี้ ฝังอยู่ ภาวนาแล้วต้องไม่ไหล ต้องไม่อย่างนั้น ต้องรู้สึกตัว จริงๆ ทุกสภาวะ ที่ครูบาอาจารย์ชี้ให้เราดู ท่านต้องการให้เราเห็นว่า มีสภาวะแบบนั้น ท่านไม่ได้บอกวา อย่าให้มันเป็นแบบนั้นนะ แต่พอเวลาพวกเราเรียน ความเข้าใจมันจะกลับหัวกลับหาง เราคิดว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์บอก อย่างนั้น อย่างนี้มันไม่ดี ไม่ควรจะเป็น เนี่ยเราเข้าใจผิดนะ มันเลยติดเคยชิน นี้ ถ้าทำอะไรไม่ได้แล้ว ตอนนี้มันเคยชินไปแล้ว วิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือ รู้ว่ามันเป็นอย่างนั้น ไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะทิ้งความเคยชิน แต่ทางที่ดีที่สุด ลองเปลี่ยนวิธี เปลี่ยนรูปแบบอื่นไป" -- ฆราวาสธรรม อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมในคอร์สกลุ่มธรรมทาน วันที่ 10 กันยายน 2559 (swt590910B) |
Thu, 5 January 2017
"คำว่า =จิตเป็นยังไง ก็รู้ว่าเป็นอย่างนั้น= คือจะสื่อว่า ไม่ว่าจิตเราจะ ดี หรือ ไม่ดี เราก็ดูไปตามที่มันเป็น มันไม่ดีเราก็ดู มันดีเราก็ดู หน้าที่เราก็คือ นั่งดูมันไปเรื่อยๆ แต่ว่า พอเห็นปุ๊บมันไม่ได้จบแค่เห็น ไม่ได้จบแค่รู้ พอเห็นปุ๊บมันจะเริ่มปรุง ปรุงไปข้างยินดีบ้าง ปรุงไปข้างยินร้ายบ้าง หรือไม่งั้นพอเห็นอันนี้ก็ไม่ชอบละ ไม่อยากได้ อยากได้อีกแบบนึง เห็นจิตดีก็ยังอยากรักษาเอาไว้ มันก็จะเริ่มปรุงต่อ ที่หลวงพ่อบอกว่า จิตไม่เป็นกลาง ยังไม่สามารถรู้สภาวะด้วยความเป็นกลางได้ หลวงพ่อจึงมาสรุปหลักให้เราปฏิบัติ ท่านสรุปว่า =มีสติ รู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลาง= ยากตรงไหน - ยากตรงที่ไม่มีสติ พอมีสติก็ง่ายขึ้นมาขั้นนึง มีสติ รู้กาย รู้ใจ แต่พอเรามีสติรู้กายรู้ใจ เราจะไม่ยอมรู้ตามความเป็นจริง มันไม่เที่ยงเราก็พยายามให้มันเที่ยง มันไม่ดีก็พยายามให้มันดี มันจะดับเราก็พยายามไม่อยากให้มันดับ เราไม่หัดดูด้วยความเป็นจริงที่มันเป็นอยู่" ฆราวาสธรรม อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา สนทนาธรรมในคอร์สกลุ่มธรรมทาน วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๙ (swt590910A) |
Wed, 28 December 2016
|
Wed, 28 December 2016
"ปฏิบัติแล้วเป็นยังไงก็ได้ ขอให้รู้ว่ามันเป็นอย่างนั้น เพราะถูก ผิด เอาตัวรู้เป็นตัวตัดสิน ไม่ได้เอาอาการเป็นตัวตัดสิน ปฏิบัติแล้วโมโหทั้งวันเลย แต่ว่ารู้ว่าโมโหอยู่นี่ใช้ได้ ไม่ได้ผิดอะไรเลย" -- ฆราวาสธรรม อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา บ้านจิตสบาย วันที่ 8 ตุลาคม 2559 |
Sat, 24 December 2016
อย่าไปวางอยู่ว่า เอ๊ย จิตเราต้องเป็นอย่างนั้นต้องเป็นอย่างนี้ แล้วเรียกว่าภาวนาเหรอ ไม่ใช่ อะไรก็ได้ สภาวะจะเป็นยังไงก็ได้ ไม่ดีก็ได้ ขอให้มีสติ แล้วก็รู้มันไป รู้แล้วไม่ตั้งมั่นก็ได้นะ ไม่ได้ผิดกติกาอะไร รู้แล้วไม่ตั้งมั่นก็รู้ไปอย่างนั้นแหละ การฝึกรู้โดยจิตที่ไม่ตั้งมัน มันจะนำไปสู่การที่มีจิตตั้งมั่นในกาลต่อไปได้ ... เลิกดิ้นนะ |
Tue, 29 November 2016
"อยากจะสงบ ก็บังคับจิตตัวเอง ฝืนๆ คอยบังคับ คอยทำสิ่งทุกอย่าง หาวิธี จนกระทั่งสุดท้าย ในหัวนี่หนักมาก ใครรู้สึกบ้างไหม ถ้าคนที่คอยบังคับจิตตัวเองไม่ให้คิดมากๆ เนี่ย บังคับไปๆ มันหนักเหมือนใครเอาครกหินมาใส่ไว้ในหัว ประมาณนั้นน่ะ พอมันหนักมากๆ มันเครียดมากๆ ร่างกายมันสู้ไม่ไหวมันก็จะหลับ ผมเป็นคนที่ไปนั่งตรงไหนก็จะหลับตรงนั้น เพราะความเครียดมาก แต่พอเลิกเพ่ง เลิกบังคับจิตตนเอง ปล่อยให้มันหลงแล้วรู้ๆ อาการพวกนั้นก็หายไป" -- อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สรินรสธรรม 12 ส.ค. 59 (swt590812C) |
Thu, 24 November 2016
"ถ้าติดเพ่ง แก้ยาก อะไรที่สุดโต่งไปข้างบังคับ แก้ยาก แต่อะไรสุดโต่งไปข้างเพลิดเพลิน เผลอเพลิน กลับมามีสติง่าย เพราะฉะนั้น นักปฏิบัติต้องพยายามทำตัวให้เป็นปกติธรรมดาที่สุด เท่าที่จะเป็นได้ สิ่งที่จะเติมลงไปก็คือ เติมความรู้สึกลงไป เติมความรู้สึกกาย เติมความรู้สึกใจลงไป" -- อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สรินรสธรรม วันที่ 12 ส.ค. 2559 (swt590812B) |
Mon, 14 November 2016
"เราก็ต้องสร้างโอกาสภาวนาให้ตัวเราเองนะ เราจะไปรอให้ชีวิต ราบรื่นแล้วค่อยภาวนา รอไปเถอะ ไม่ได้ภาวนาหรอก จริงๆ เวลาที่เรามีเรื่อง มีปัญหา มีอุปสรรค มีทุกข์เยอะๆ นั่นแหละ คือ ช่วงที่เราจะภาวนาได้ดีมากๆ เวลาที่เรามีความทุกข์ใจมากๆ มันไม่ใช่เวลาที่เราจะไปนั่งทำใจให้มันมีความสุข จริงๆ เวลาที่เรามีความทุกข์ใจมากๆ ถ้าเราเอาความทุกข์ตรงนั้นมาหัดดูนะ อดทนดูกับความทุกข์ ความเศร้า ความโศกในใจ พอเราผ่านช่วงนั้นไปได้ เราจะพบว่าจิตเราจะแข็งแรงขึ้น เราจะอยู่กับโลกได้ง่ายขึ้น เพราะเราดูความทุกข์ มาจนจิตมันเริ่มยอมรับแล้วว่า มันทำอะไรไม่ได้ มันก็ต้องทุกข์อยู่อย่างนั้น จนกว่าทุกอย่างจะผ่านไป ตามวิบากที่มันให้ผล" อาจารย์สุรวัฒน์ คอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้งนครสวรรค์ 30 กรกฎาคม 2559 (swt590730B) |
Thu, 27 October 2016
ไม่ว่าจะปฏิบัติด้วยการทำอะไรก็ตาม จะอยู่ในชีวิตประจำวันหรือทำในรูปแบบหรืออะไรก็ตามมันเหมือนกันหมด มันหลักเดียวกันหมดก็คือ ให้มีสติอยู่กับกายกับใจตัวเอง อะไรก็ได้ ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ แล้วพอมันเผลอไปคิดก็รู้ เผลอไปมองก็รู้ เผลอไปฟังก็รู้ เอาสามอย่างนี้ก็พอแล้ว เผลอไปฟัง เผลอไปมอง เผลอไปคิด รู้ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้แต้มนึง แต่ถ้าไปเพ่งๆ บังคับจิตไว้ มันไม่ได้สักแต้มนึง ติดลบ ติดลบไปเรื่อยๆ ก็เท่ากับว่าถอยห่างมรรคผลนิพพานไปเรื่อยๆ ยิ่งเนิ่นช้า ยิ่งไกลไปเรื่อยๆ - อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา บรรยายธรรมะในคอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง จังหวัดนครสวรรค์ วันที่ 29 กรกฎาคม 2559 (swt590729C) |
Fri, 14 October 2016
การบังคับจิต ต้องเลิกให้หมดนะ ถ้าไม่บังคับจิต แล้วเราก็นั่ง ยืน เดิน นั่งภาวนาไปสบายๆ จิตมันจะมีสติรู้กายรู้ใจได้ ชัด่ขึ้นๆ กำลังของสติมันจะ มากขึ้นๆ เมื่อไหร่ที่กำลังของสติมาก มันก็จะระลึกรู้ว่าเมื่อกี้เผลอไปได้ง่าย มันจะรู้ว่าเมื่อกี้เผลอไปได้ รู้ว่าเมื่อกี้จิตไปเพ่ง มันจะรู้ทันจิตได้ง่ายขึ้นหมดเลย เพราะฉะนั้น เราต้องฝึกแบบที่ปล่อยใจสบายๆ รู้ไปตามที่มันเป็น |
Fri, 14 October 2016
วิธีการจะเอาชนะกิเลส เราอย่าใช้วิธีการไปสู้กับมัน เราต้องใช้วิธีการที่ฉลาดกว่ามัน ก็คือเราแค่นั่งดูม้น ถ้าเราแค่นั่งดูมันเฉยๆ ได้นะ เดี๋ยวกิเลสมันหดหัวไปเอง
|
Thu, 29 September 2016
"อย่าพยายามบังคับจิตไม่ให้คิดนะ มันผิดนะ ยิ่งพยายามจะทำให้ไม่คิด มันจะยิ่งกลายเป็นกดข่มบังคับจิตตัวเอง ให้มันคิดไปสบายๆ แล้วเราก็รู้ทันมันไป คิดก็รู้ทัน คิดก็รู้ทัน คิดเรื่องนี้กังวลรู้ว่ากังวล คิดเรื่องนี้มีความสุขรู้ว่ามีความสุข แต่เรื่องมีความสุขมันคิดไม่ค่อยนาน มันจะคิดเรื่องที่มีความทุกข์นาน พอคิดแล้วปุ๊บมีความไม่สบายใจรู้ว่าไม่สบายใจ เราพลิกไปดูอีกมุมนึงด้วย ดูความรู้สึกที่เกิดกับความคิดอันนั้นว่ามันเป็นยังไง แล้วสติปัญญามันจะพัฒนาขึ้นได้เรื่อยๆ" อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา - สนทนาธรรมตามกาล ครั้งที่ 3 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล - วันที่ 21 สิงหาคม 2559 |
Wed, 7 September 2016
"เราต้องฝึกรู้ไปเรื่อย รู้ไปอีก จนกระทั้งมันเข้ามาเห็นว่า ขันท์ห้า เป็นตัวทุกข์ เมื่อไหร่ที่มันเห็นจนกระทั้ง มันยอมทิ้งจริงๆ นั่นแหละ มันถึงจะพ้นทุกข์จริงๆ แต่ตอนนี้เราแค่ทิ้งอาการของมัน เหมือนกับรู้สึกว่าในแก้ว มีของสกปรกอยู่ เราไปเทของสกปรกทิ้ง แล้วเราก็กอดแก้วเอาไว้ แล้ววันหนึ่งไม่รู้ ใครเอาของสกปรกมาเติมอีก ก็เติมได้อีก ถูกมั้ย แต่ถ้าเราปฏิบัติ จนกระทั้งรู้ทุกข์แจ่มแจ้ง ละสมุหทัยได้จริง มันทิ้ง มันไม่ใช่แต่ทิ้งของในแก้ว มันทิ้งทั้งแก้ว ใครก็เอาอะไรมาใส่ไม่ได้แล้ว" อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา บ้านจิตสบาย 11 มิถุนายน 2559 |
Sat, 27 August 2016
ถ้าอยากจะฝึกสติ กลับมารู้สึกอยู่ที่กายที่ใจตัวเองเตือนตัวเองเท่านั้น ต้องเตือนตัวเองว่าให้กลับมา รู้สึกอยู่ที่กายใจ แต่การกลับมารู้สึกอยู่ที่กายที่ใจตัวเอง มันไม่ใช่การกลับมารู้เรื่องราวของตัวเองนะ มันต่างกัน อย่างเรานั่งอยู่ตรงนี้ รู้สึกไหมว่ามีร่างกายนั่งอยู่ แค่นี้จบแล้ว รู้กายละ นั่งอยู่ตรงนี้ รู้สึกไหมว่าเบื่อแล้ว ฟังแล้วเบื่อไม่รู้พูดอะไร แค่รู้ว่าเบื่อ นี่กลับมารู้ใจตัวเองละ มันง่ายๆแค่นี้ แต่พวกเราชอบไปทำให้ยาก |
Fri, 26 August 2016
รู้ว่าหลง รู้ว่าเผลอ แว้บหนึ่ง สติเกิด ตรงนั้น แค่ช่วงสั้นๆ แว้บเดียวที่รู้ว่าหลงไปตอนนั้น มันมีทั้งศีล ทั้งสมาธิ และได้เจริญปัญญาอัตโนมัติเลย เพราะแว้บตรงน้้น มันจะเห็นชัดถึงการเปลี่ยนแปลง ของจิตที่ "หลง" กับจิตที่ "รู้" ตรงนี้คือการเดินปัญญาอัตโนมัติ |
Fri, 26 August 2016
"เราต้องค่อยๆ สังเกตตัวเองนะว่า เรามีจิตตั้งมั่นได้บ่อยไหม เราดูสภาวะแล้วเราเป็นกลางได้ไหม แต่ไม่ได้แปลว่า ต้องทำตัวให้เป็นกลางนะ การปฏิบัติธรรม เราจะไม่ทำโน่นทำนี่อะไรขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่เราจะปฏิบัติก็คือ เราจะต้องมีสติ แล้วก็รู้สภาวะธรรมนั้นตามความเป็นจริง แรกๆ อาจจะยังไม่เห็นความเป็นจริง แต่ว่าเราดูมันที่มันเป็นอยู่นั่นแหละ ดูไปตามที่มันเป็นอยู่ หัดดูไปเรื่อยๆ จิตก็จะค่อยๆ มีกำลังตั้งมั่นขึ้นมา พอตั้งมั่นขึ้นมาแล้วก็หัดดูบ่อยๆ เราก็จะเห็นความชอบ ความไม่ชอบ ความเอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งของจิตเรา ซึ่งมันมีลักษณะของความไม่เป็นกลาง แค่เห็นว่ามันไม่เป็นกลาง แค่เห็นว่ามันชอบ ไม่ชอบ ต่อไปมันจะพัฒนาไปสู่ความเป็นกลางของมันได้เอง" |
Thu, 25 August 2016
"การดูไตรลักษณ์ คือจิตมันจะดูเอง ไม่ใช่ว่าเราไปเจตนาดูไตรลักษณ์นะ ไตรลักษณ์นี่เจตนาดูก็ไม่ได้นะ ถ้าเรายังเจตนาดูไตรลักษณ์ มันยังไม่เห็นไตรลักษณ์จริงหรอก สิ่งที่เราจะต้องดู คือดูสภาวะที่กำลังปรากฎ ดูไปเรื่อยๆ" สนทนาธรรมกับอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ที่โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๙ |
Thu, 25 August 2016
"เราฝึกเพื่อที่จะให้เข้าใจว่า ความคิดนึกปรุงแต่งทั้งหลาย มันมีเหตุก็เกิด ไม่มีเหตุมันก็ไม่เกิด มีเหตุให้เกิดแล้ว หมดเหตุมันก็ดับ ดับแล้วมันมีเหตุใหม่เข้ามามันก็เกิดใหม่อีก เกิดดับ เกิดดับ วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ แต่เราจะไม่ไปยุ่งกับมัน คล้ายๆ เราจะไม่เป็นทุกข์กับมัน อย่างเช่น เรานั่งสมาธิแล้วไม่สงบอย่างที่เราต้องการ เราจะเป็นทุกข์ขึ้นมา เพราะว่าเราอยากให้มันสงบ เราดิ้นรนจะให้มันสงบ มันก็จะกลายเป็นว่าเราสร้างความทุกข์ขึ้นมาใส่ตัวเอง เพราะฉะนั้นเรามาหัดรู้ความจริงของมัน" สนทนาธรรมกับอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ที่บ้านจิตสบาย วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๙ |
Wed, 17 August 2016
ทำสิ่งที่ดีไว้ สักวันนึงผลมันก็ต้องดี ในสิ่งที่เราทำผลดีอันนั้นก็ต้องตอบแทนมา อันนี้เป็นเรื่องของการให้ผล ของการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เรื่องของกรรม เราก็ภาวนาของเราไป ใจเป็นยังไง รู้ ดีก็ได้ ไม่ดีก็ได้ รู้ ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึก อะไรปรากฎขึ้นที่เป็นปัจจุบัน ให้หัดรู้ไปให้หมดเลย รู้ด้วยใจที่สบายๆ แบบเล่นเกม |
Tue, 16 August 2016
ทำยังไงให้เราจะอยู่ในเส้นทางของการรู้กายรู้ใจได้ โดยที่ไม่ทิ้งมันไป ไม่เลิกมันไป เราก็ต้องอาศัยการฟังธรรมบ่อยๆ ต้องอาศัยการคลุกคลีอยู่กับธรรมะบ่อยๆ แต่ไม่ใช่คลุกคลีจนกระทั่งกลายเป็นฟุ้งซ่านในธรรม อันนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ต้องพาตัวเองมาอยู่กับอะไรที่กุศลไว้ อย่าพาตัวเองไปอยู่กับอะไรที่เป็นอกุศล อย่างที่อโคจรทั้งหลายเนี่ย ไม่ควรจะไป |
Tue, 16 August 2016
การเห็นกามราคะ ยังไม่เป็นวิปัสสนา จนกว่าจะเห็นด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง จะเกิดวิปัสสนาขึ้นมาแว้บหนึ่ง อาจจะยังไม่ทันเกิดมรรคผลก็ได้ เห็นซ้ำอีก จนจิตฉลาดหรือจิตเชื่อ พอถึงตรงนี้เราจะรู้สึกเลยว่า ตลอดระยะเส้นทาง หรือระยะเวลาที่เราฝึก จิตจะอยู่กับสมถะเป็นพื้น นานๆ จะมีวิปัสสนาขึ้นมา |
Mon, 15 August 2016
พอมีสติขึ้นมา ถ้ามีสติที่ถูกตัองจริง ขณะที่แว้บเกิดสติขึ้นมา จิตตั้งมั่นเรียบร้อยแล้ว พอจิตตั้งมั่นแว้บนึงตรงนั้น จิตที่มีความตั้งมั่นแล้วก็มีสติย้อนมารู้กายรู้ใจตัวเอง มันก็จะเห็นไตรลักษณ์ของกายของใจได้ แค่นี้ เรียนแค่นี้พอ |
Mon, 15 August 2016
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่าบังคับจิตตัวเอง ถ้าเสียใจอยากร้องไห้ ร้องเลย แต่ให้มีสติ ค่อยๆระลึก ค่อยๆรู้สึกตัวว่า ตัวเองกำลังร้องไห้ แล้วมันจะหายเอง เพราะว่าอะไร เพราะว่าถ้าเรารู้สึกว่าตัวเองกำลังร้องไห้เมื่อไหร่เนี่ย แสดงว่า เราเริ่มกลับมามีสติแล้วนะ |
Wed, 3 August 2016
" อย่าไปกังวลมันมาก ไม่ต้องคอยสังเกตตัวเองหรอกว่า ตอนนี้ตั้งมั่นหรือไม่ตั้งมั่น แค่รู้ว่า ตอนนี้มีร่างกายอยู่ ใช่ได้แล้ว แค่รู้ว่า ตอนนี้จิตใจเป็นยังไงอยู่ ใช้ได้แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม รู้แค่นี้ มันจะเป็นฐานที่จะให้เกิดสติ เกิดจิตตั้งมั่น เกิดปัญญาขึ้นมาได้ ซึ่งเวลาที่จิตตั้งมั่น เราก็ไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อให้มันถูก บางคนตั้งมั่นแล้ว ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่านั่นคือ จิตตั้งมั่น" สนทนาธรรมกับอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สจีน 10 พฤษภาคม 2559 (swt590510B) |
Tue, 2 August 2016
"การปฏิบัติเนี่ย ไม่ใช่ว่า ต้องไม่โกรธนะ ไม่ใช่ว่า ไม่ต้องมีกิเลสนะ แต่พอมีกิเลสแล้ว จะมีไปนานแล้ว หรือยังเพิ่งจะมี เรานึกขึ้นได้ตอนไหน เราก็ดูมันตอนนั้นเลย" สนทนาธรรมกับอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สจีน วันที่ 10 พฤษภาคม 2559 |
Sun, 22 May 2016
เวลาฝึก ปัญหาก็คือ บางทีเราอยากได้ผลเร็ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องคาดหวังว่าทำแล้วจะได้ผล วันนี้ทำแล้วไม่ได้ผลอะไรเลย ก็ไปทำต่อพรุ่งนี้ วันนี้เกิดสติได้น้อย พรุ่งนี้ก็ฝึกต่ออีก วันนี้ยังไม่ได้นิพพาน พรุ่งนี้ก็ฝึกต่ออีก ฝึกทุกวันไม่ขี้เกียจ และก็อย่าท้อ |
Sun, 22 May 2016
"ฝึกไปแล้ว จิตใจเราจะดีหรือไม่ดี ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญอยุ่ที่ จิตจะดีหรือไม่ดี ก็เป็นไตรลักษณ์เหมือนๆกัน ต้องฝึกให้เห็นไตรลักษณ์ของกายของจิตให้ได้ อย่าท้อ และก็อย่าเลิกนะ ถ้าเราไม่เลิก เราฝึกไปเรื่อยๆ วันนึงมรรคผลนิพพานก็จะเกิดขึ้น ชาวพุทธต้องฝึกกันอย่างนี้" ธรรมะบรรยายโดยอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ในคอร์สอังกฤษ วันที่ 12 มีนาคม 2559 |
Sun, 22 May 2016
|
Sun, 22 May 2016
"เราต้องฝึกตัวเองให้เกิดจิตตั้งมั่นก่อน พอเรามีจิตตั่งมั่นแล้วเราจึงจะเจริญปัญญาต่อไปได้ แต่เริ่มแรกก่อนที่เราจะฝึก ก็มีแนวทาง 2 แนวทางหลักๆ แต่ไม่ว่าจะใช้แนวทางไหน ก็ต้องกลับมาเรียนที่กายทีใจของตัวเอง เป้าหมายที่แท้จริงของพระพุทธศาสนาคือการเข้าใจความจริง เมื่อเราเข้าใจความจริงได้ เราก็จะปล่อยความยึดถือได้ และเราจะมุ่งเป้าไปที่การปล่อยความยึดถือกาย ยึดถือใจเราตัวเองเป็นสำคัญ ถ้าเราจะฝึกเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุด เราต้องเริ่มต้นให้ถูก ไม่เช่นนั้นเราจะไม่อาจปฏิบัติให้ได้ผลตามที่ควรจะเป็น และจุดเริ่มต้นของการภาวนา นั่นก็คือ สติ นั่นเอง" อาจารย์สุรวัฒน์ คอร์สภาษาอังกฤษ ๓ วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๙ |
Thu, 21 April 2016
การเห็นความเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ นั่นคือโอกาสของการให้จิตได้เรียนรู้ไตรลักษณ์ แต่ถ้าจิตไม่เปลี่ยนเลย กายไม่เปลี่ยนเลย โอกาสที่จะเจริญไตรลักษณ์ เจริญปัญญาด้วยการเห็นไตรลักษณ์ ก็จะลดน้อยลง เพราะฉะนั้น ทำยังไงก็ได้ให้เห็นไตรลักษณ์บ่อยๆ แล้วปัญญาจะเจริญได้เร็ว บรรลุธรรมเร็ว |
Thu, 21 April 2016
"อย่าไปพยายามสร้างตัวเองให้เป็นโน่น เป็นนี่เป็นนั่นให้วุ่นวาย สร้างสติขึ้นมาตัวเดียว เมื่อไหร่มีสติที่แท้จริงได้ เมื่อนั่นมีศีล ถ้ามีศีลได้ก็ไม่ทำผิดศีล เราจะไม่คิดโกงใคร แค่ทำผิดนิดเดียวเราจะรู้สึกละอายใจ เพราะสติตัวนี้ จะนำมาซึ่งคุณธรรมทุกประการทั้งปวงเลย" อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ค่ายเรียนรู้กายใจ จ.นครสวรรค์ วันที่ 5 มีนาคม 2559 A |
Wed, 30 March 2016
"การภาวนาเนี่ย มันก็คือการย้อนกลับมาเรียนรู้ตัวเอง เพราะวัตถุประสงค์ที่เราย้อนมาเรียนรู้ตัวเอง ก็เพื่อให้เรามีสติ มีความรู้สึกตัว และมีจิตตั้งมั่น ประโยชน์ของการภาวนา ถ้ามองในแง่โลกๆ ก็คือไม่ว่าโลกมันจะมีความวุ่นวาย หรือว่าเกิดอะไรขึ้นมา วิกฤตแค่ไหน จิตใจเราก็จะเป็นทุกข์น้อย หรือว่าถ้าฝึกถึงที่สุด ก็จะไม่เป็นทุกข์เลย" |
Wed, 30 March 2016
อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา "ถั่วรู้หลง" ในคอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง 27 กุมภาพันธ์ 2559 B |
Wed, 30 March 2016
อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ในคอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2559 A |
Mon, 28 March 2016
อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง 26 ก.พ. 2559 C |
Mon, 28 March 2016
อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา คอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง 26 ก.พ. 59 B |
Mon, 28 March 2016
คอร์สรู้กาย รู้ใจ พื้นฐานสู่ความรู้แจ้ง 26 กุมภาพันธ์ 2559 A |
Sun, 6 March 2016
"คนเรายังไงก็ต้องมีทั้งฝ่ายดี และฝ่ายที่ไม่ดีอยู่ในตัวเราเอง หน้าที่เราไม่ได้ว่าจะปัดสิ่งที่ไม่ดีทิ้ง เพราะปัดไม่ได้ หน้าที่ของเราเนี่ย จะดีหรือไม่ ดี ถ้าเราทำตัวเป็นแค่คนรู้คนดูได้เนี่ย จิตมันก็จะเกิดสติขึ้นมา เมื่อไหร่ถ้าจิตที่เกิดสติขึ้นมา แล้วเมื่อไหร่ที่จิตที่เกิดสติ จิตที่มีสติก็จะเป็นจิตฝ่ายกุศลละ เมื่อไหร่ที่เกิดกุศลอกุศลมันก็จะดับอัตโนมัติ หัดไปเรื่อยๆ ดีก็ดู ไม่ดีก็ดู" อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา - บ้านจิตสบาย วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๙ |
Mon, 4 January 2016
"การภาวนามันไม่ได้มีอะไรมากมาย ถ้าเราจะเอาปัญญานะ" อาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา บรรยายธรรมะที่บ้านจิตสบาย วันที่ 14 พฤศจิกายน 2558 |
Sat, 7 November 2015
ธรรมะบรรยายโดยอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ในคอร์สคนจีน 5 พร้อมแปลภาษาจีน วันที่ 12 กันยายน 2558 ช่วงสอง |
Sat, 7 November 2015
ธรรมะบรรยายโดยอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ในคอร์สคนจีน 5 พร้อมแปลภาษาจีน วันที่ 12 กันยายน 2558 ช่วงแรก |
Tue, 15 September 2015
สนทนาธรรมกับอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ที่ศูนย์ฝึกอบรมบางปะกง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย วันที่ 30 ส.ค. 58 |
Tue, 18 August 2015
สนทนาธรรมกับ อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ที่บ้านจิตสบาย 11 ก.ค. 58 |
Thu, 2 July 2015
สนทนาธรรมกับอ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ที่บ้านจิตสบาย วันที่ 13 มิถุนายน 2558 |
Wed, 1 July 2015
ธรรมะบรรยายโดยอ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนาในคอร์สคนจีน 4 วันที่ 14 พ.ค. 58 |
Sun, 10 May 2015
สนทนาธรรมกับอ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ที่บ้านจิตสบาย วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2558 |
Sat, 25 April 2015
ธรรมะบรรยายโดย อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ในคอร์สจีน 3/2557 วันที่ 5 ธันวาคม 2557 B |
Sat, 25 April 2015
ธรรมะบรรยายโดยอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา พร้อมคำแปลภาษาจีน ในคอร์สคนจีน 3/2557 วันที่ 5 ธ.ค. 57 A |
Wed, 15 April 2015
อ.สุรวัฒน์ คอร์สภาษาอังกฤษ 9 เม.ย. 58 ช่วงสอง |
Wed, 15 April 2015
อ.สุรวัฒน์ในคอร์สภาษาอังกฤษ วันที่ 9 เม.ย. 58 ช่วงแรก |
Wed, 31 December 2014
สนทนาธรรมกับ อาจารย์สุรวัฒน์ ที่บ้านจิตสบาย วันที่ 8 พฤศจิกายน 2557 |
Mon, 13 October 2014
เรียนธรรมะกับอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ในคอร์สคนจีน วันที่ 13 กรกฎาคม 2557 |
Tue, 30 September 2014
อบรมธรรมะปฏิบัติแนวทางหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ในคอร์สคนจีน โดยอาจารย์สุรวัฒน์ วันที่ 11 กรกฏคม 2557 |
Tue, 30 September 2014
อบรมธรรมะปฏิบัติเพื่อการเจริญสติ แนวทางหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช โดยอาจารย์สุรวัฒน์ 18 กรกฎาคม 2557 พร้อมแปลภาษาจีน |
Sat, 14 December 2013
สนทนาธรรมกับ อ.สุรวัฒน์ บ้านจิตสบาย วันที่ 14 ธ.ค. 56 |
Sat, 14 September 2013
ถามตอบปัญหาเกี่ยวกับการภาวนา โดยอาจารย์สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ที่บ้านจิตสบาย วันที่ 14 กันยายน 2556 |