ฆราวาสธรรม เพื่อการเจริญสติ

"ปัญญาไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อน มันคือการเห็นสภาวะของจริง ปัญญาคือการเห็นสภาวะที่เกิดดับ มันไม่มีคำพูด ไม่มีการพากษ์ แต่คือความเข้าใจ ตัวอย่างเช่น กิเลสเกิดแล้วดับ สิ่งไหนที่เกิดที่ดับ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา แต่ไหนแต่ไร จะมีเราโกรธ เราโลภ เราหลง แต่พอมีจิตตั้งมั่นขึ้นมา เริ่มเห็นว่าจิตมันโกรธ ความโกรธมันแทรกเข้ามา ไม่ใช่เราโกรธ การเรียนรู้สภาวะต่าง ๆ ว่าไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ตัวนี้เรียกว่าการเดินปัญญา" --คุณซอง ณพัทธ์พล คุณาธนะเศรษฐ์ คอร์สคนลาว 16-18 มิถุนายน 2566

Direct download: nks660617A.mp3
Category:general -- posted at: 6:00am +07

"คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นเสมือนแผนที่ให้เราเดิน จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เป็นแผนที่เพื่อความพ้นทุกข์ เป็นเส้นทางของมรรค เราฟังธรรมะแล้วเข้าใจ ก็ค่อย ๆ กลับไปฝึก เราค่อย ๆ เดินไป เดินไปทีละก้าว ๆ ไม่หยุด มันจะค่อย ๆ สะสมความรู้ความเข้าใจมากขึ้น แต่สักพักหนึ่ง บางทีมันก็ลืมนะ เพราะในสังสารวัฏเราสะสมมิจฉาทิฏฐิมาตลอด มันก็อดไม่ได้ที่จะกลับไปเข้าใจแบบเดิม ๆ ฉะนั้นเราก็ต้องหมั่นกลับมาฟังธรรม ฟังแผนที่ของการปฏิบัติ ฟังบ่อย ๆ แล้วค่อย ๆ เอาไปปฏิบัติ จะค่อย ๆ เห็นเอง แล้วก็จะได้เข้าใจ" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์ คอร์สคนลาว 16-18 มิถุนายน 2566

Direct download: nit660617C.mp3
Category:general -- posted at: 6:00pm +07

"กรรมฐานไหนทำแล้วเกิดสมาธิบ่อยให้ใช้อันนั้น เริ่มต้นก็ค่อย ๆ ฝึกให้เข้าใจ พอผ่านไปเมื่อเริ่มรู้ทันจิตเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมฐานไหนถ้าทำถูก คือรู้ทันจิต ก็ใช้ได้หมด เพราะรูปแบบเป็นแค่เปลือก การสวดมนต์ เคลื่อนไหว ทำจังหวะ ร่างกายเคลื่อนไหว ก็ให้กลับมารู้ทันจิต ไม่ได้บอกว่าทำอันไหนดีกว่าอันไหน แต่มันอยู่ที่ว่าทำแล้วรู้ทันจิตไหม และกรรมฐานไม่ควรมีเกินสองอย่าง ถ้ามีเครื่องอยู่หลายแบบจะงง ทำอันไหนที่มันตรงจริตนิสัย สติเกิดได้บ่อยสมาธิเกิดได้ง่าย ทำอันนั้น" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์ คอร์สคนลาว 16-18 มิถุนายน 2566

Direct download: nit660617B.mp3
Category:general -- posted at: 12:00pm +07

"บางคนใจร้อน รู้สึกว่าต้องรีบเจริญปัญญาถึงจะเข้าใจได้ธรรมะ ก็พยายามคิดนำ ขณะที่คิดขณะนั้นคือหลง ไม่ได้รู้หรอกว่าหลงไปคิด แล้วเวลาที่เจริญปัญญาเห็นไตรลักษณ์ของรูปนามกายใจ มันแค่รู้สึกขึ้นมา ไม่ได้เป็นคำพูดยาว มันแค่เห็นเหมือนเรามีสติแล้วเห็นสภาวะ ขณะที่มีสติเห็นสภาวะ ขณะนั้นมีสมาธิเกิดขึ้น และมีกำลังมากพอมีจิตตั้งมั่น เป็นผู้รู้ผู้ดู ขนาดนั้นจะเห็นความจริงว่าทุกสภาวะล้วนเกิดแล้วดับ นี่ก็เจริญปัญญาเหมือนกัน" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์ คอร์สคนลาว 17 มิถุนายน 2566

Direct download: nit660617A.mp3
Category:general -- posted at: 6:00am +07

"อะไรที่มันผิดน่ะ เราไปแก้มันยาก ต่อให้แก้สำเร็จ ก็ไม่ใช่ว่า นี่คือแก้สำเร็จนะ อันนี้คือล้างใหม่ แล้วค่อยรู้ใหม่ รู้อารมณ์กรรมฐานด้วยใจที่สบาย รู้ใหม่เลยมันง่ายกว่า ล้างกระดานใหม่บ่อยๆ ไม่ต้องกลัว ที่มันตั้งแล้วล้ม ๆ เพราะว่าเราภาวนาเป็นขณะอยู่แล้ว" --คุณซอง ณพัทธ์พล คุณาธนะเศรษฐ์ คอร์สคนลาว 16-18 มิถุนายน 2566

Direct download: nks660616.mp3
Category:general -- posted at: 6:00am +07

"พอเรียนรู้ตัวเองมากเข้า ๆ เราจะเห็นเลยว่า ทุกคนก็รักสุขเกลียดทุกข์ ทุกคนก็มีโลภ โกรธ หลงทั้งสิ้น ทุกคนก็อยากดี อยากเป็นที่ยอมรับของผู้อื่น พอเราเห็นความจริงในกายในใจนี้ เราก็เห็นว่า เราไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นเลย เมื่อก่อนเรารู้สึกว่าตัวเองดีมาก เป็นคนดี มีเมตตา แต่จริง ๆ ขี้อิจฉา เป็นต้น เราจะเห็นว่า ที่คนอื่นเขามีกิเลสเยอะแยะ เราก็กิเลสเยอะเหมือนกัน ดูคนอื่นดูง่าย ดูตัวเองมันยาก" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์ คอร์สคนลาว 16-18 มิถุนายน 2566

Direct download: nit660616B.mp3
Category:general -- posted at: 12:00pm +07

"เห็นจิตที่เคลื่อนไปเคลื่อนมา เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตรงนี้จะได้สมาธิอีกแบบนึง ที่ไม่ใช่สมาธิตั้งแช่ หรือจมแช่อยู่กับลมหายใจอย่างเดียว แต่มันจะรู้เนื้อ รู้ตัวอยู่ ได้สมาธิตรงนี้แล้ว ก็ดูร่างกาย ดูจิตใจ ที่มันทำงานไป" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์ คอร์สคนลาว 16-18 มิถุนายน 2566

Direct download: nit660616A.mp3
Category:general -- posted at: 6:00am +07

"เราภาวนาไปเรื่อย ๆ เห็นสภาวะล้วนแต่เปลี่ยนแปลง เดี๋ยวเกิด เดี๋ยวดับ บังคับอะไรไม่ได้เลย บางสภาวะก็ชอบ บางสภาวะก็ไม่ชอบ ชอบก็อยากรักษาไว้ ไม่ชอบก็อยากผลักไสมัน บางทีก็อยากแก้ไขมัน ที่ว่ามาทั้งหมดคำที่ว่า 'อยาก' ก็เป็นสภาวธรรม ให้เรารู้ลงไป แล้วเราจะเห็นเลย ว่าไม่ว่าสภาวธรรมอะไรก็ตาม มันล้วนแต่ชั่วคราว เพราะมันไม่ใช่เรา มันไม่สามารถเป็นไปได้ตามใจสั่ง หรือใจอยาก นี่คือความจริง เป็นสัจจะ" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์ คอร์จิตหนึ่ง 4 สิงหาคม 2566

Direct download: nit660804.mp3
Category:general -- posted at: 6:00am +07

"ถ้าเราไม่มีสัมมาสติ ไม่มีสัมมาสมาธินะ อย่าเพิ่งไปดูเรื่องเดินปัญญา มันจะได้ปัญญาปลอม ไม่ได้ปัญญาของแท้ เราฝึกไปนะ ยืน เดิน นั่ง นอน คอยรู้สึกนะ กิน ดื่ม ทำ พูด คิด เรารู้สึกไป เวทนาอะไรเกิดขึ้น ความสุข ความทุกข์ ความเฉย ๆ หรือว่ากิเลสอะไรเกิดขึ้น คอยรู้สึกไปเรื่อย ๆ ถ้าเรารู้สึกไปได้บ่อย ๆ นะ รู้สึกไป ร้อยครั้ง พันครั้ง หมื่นครั้ง แสนครั้ง รู้สึกไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวมันก็ค่อยจำสภาวะได้เอง" --พระอาจารย์สมชาย (อ๊า) กิตฺติญาโณ คอร์สจิตหนึ่ง 3 สิงหาคม 2566

Direct download: sci660803.mp3
Category:general -- posted at: 6:00am +07

"การทำในรูปแบบคือการฝึกหัดฝึกซ้อม เพราะสติและสัมมาสมาธิไม่ได้เกิดลอย ๆ ต้องเกิดจากการฝึกฝน ใจที่มีสัมมาสมาธิ เห็นร่างกายจิตใจที่เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง มันก็จะเก็บข้อมูลไปเรื่อย ๆ เป็นการเก็บข้อมูลด้วยใจ ความเข้าใจในทางศาสนาพุทธ ต้องเรียนรู้ด้วยใจ ใช้ใจรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในกายในใจเรา ไม่ได้ใช้เหตุผลทางสมอง ไม่ได้ใช้ตรรกะคิดเอา ใจจะยอมรับได้ จะต้องเห็นสภาวะตามความเป็นจริงไปเรื่อย ๆ ซ้อมทุกวัน ดูทุกวัน เราสะสมข้อมูลไปเรื่อย ๆ จิตใจก็เติบโตขึ้นมาเอง ความเข้าใจนี้จะไปถอดถอนความเห็นผิดในระดับจิตใจ แล้วถึงจะถอดถอนกิเลสได้จริง งานนี้เป็นงานระยะยาว ไม่ต้องรีบ แต่ว่าต้องสม่ำเสมอ" --คุณแม่ชีอรนุช สันตยากร บ้านจิตสบาย 10 กันยายน 2566

Direct download: orn660910_.mp3
Category:Khun Mae Oranuch -- posted at: 6:00am +07