ฆราวาสธรรม เพื่อการเจริญสติ

"พระพุทธเจ้าเวลาท่านเทศน์ท่านสอน มันเป็นไปตามลำดับ เช่น ในมรรคมีองค์แปด เริ่มจากสัมมาทิฐิ สัมมาสังกับปะ สัมมาทิฐิ ในเบื้องต้นเราก็ต้องมีสัมมาทิฐิในวิธีการปฏิบัติก่อน เรารู้ว่าทำอะไรเพื่ออะไร นี่เป็นสัมมาทิฐิของวิธีการปฏิบัติ ต่อมา ท่านพูดเรื่อง สัมมาสังกัปปะ สัมมาสังกับปะ ก็มาจากใจ คือ คิด คิดมาจากอะไร คิดมาจากใจ มีความดำริที่ถูกต้อง ดำริที่จะออกจากกาม ดำริออกจากการเบียดเบียนด้วยพยาบาท ด้วยโมหะ นี่เป็นเรื่องของความคืด เราก็คิดมาจากจิตเรานั่นแหละ พอจากจิตแล้ว จากใจแล้ว ก็มาเป็นวาจา จากวาจา ก็ค่อยมาเป็นพฤติกรรมต่างๆ คือ ศีล 5 สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ ต่อมาเป็น สัมมาวาจา แล้วค่อย สัมมากัมมันตะ แล้วก็เป็นสัมมาอาชีวะ ก็เป็นพฤติกรรมอีก อยู่ในเรื่อง คีล สัมมาวายะ เป็นตัวบอก นับจากนี้ พฤติกรรมทางกาย ก็ดีแล้ว วาจาก็ดีแล้ว คิดก็ถูกต้องแล้ว เป้าหมายที่จะมุ่งไปสู่ เวลาที่เราจะภาวนา เป้าอยู่ที่ สัมมาวายามะ เป็นตัวชี้วัดว่า การภาวนายังอยู่ในร่องในลอยมั้ย ถ้าทำแล้ว กิเลสพอกพูน ก็ไม่ใช่แล้ว รักษาศีลแล้วกูเก่ง คนอื่นไม่รักษา กูดีอยู่คนเดียว ก็ไม่ใช่ สัมมาวายามะ สัมมาวายามะ เป็นตัวบอกเป้า ให้เรา เป็นกรอบให้เรา เสร็จแล้ว ค่อยพูดถึงว่า จะภาวานามันต้องใช้เครื่องมืออะไร ก็คือ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ งั้นการสอนของท่าน มันเป็นขั้นเป็นตอน งดงาม ไม่กระโดดไป กระโดดมาหรอก เวลาเรียน เราก็เรียนไปตามลำดับ พอเราถึงพร้อมด้วย สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เกิดมรรคเกิดผล มันก็ได้สัมมาทิฐิจริงๆ" --อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ คอร์สวิถีแห่งธรรม วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑

Direct download: psn610701A.mp3
Category:Prasan -- posted at: 6:00am +07